กรอ.ลงมติชง “บิ๊กตู่” เปลี่ยนแผนสร้างรถไฟเด่นชัย-เชียงราย ลดขนาดราง-หวังเดินหน้าได้ทันที

เชียงราย - คณะกรรมการร่วมภาครัฐ-เอกชนลงมติเสนอรัฐบาล “บิ๊กตู่” เปลี่ยนแผนสร้างทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย ใช้รางเมตรเดียวแทน 1.4 เมตร บอกไม่ต้องศึกษาใหม่ ทำเดินหน้าได้ช้า เล็งดึงกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนร่วมหนุน พร้อมเสนอผ่านที่ประชุมหอฯ ไทยเดือนหน้าอีกทาง

การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จ.เชียงราย ประจำเดือนนี้ (ต.ค. 2557) ซึ่งมีนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธาน และมีหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนจากภาคเอกชนเข้าร่วม ได้มีการหารือกันถึงโครงการก่อสร้างรถไฟ อ.เด่นชัย จ.แพร่-จ.เชียงราย ด้วย

โดยตัวแทนหอการค้า, สภาอุตสาหกรรมฯ, สภาการท่องเที่ยว จ.เชียงราย และชมรมธนาคาร จ.เชียงราย ได้นำเสนอให้ กรอ.ภาครัฐเห็นชอบร่วมในการเสนอเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลชุดปัจจุบันให้เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย โดยเร็ว และให้ลดขนาดรางรถไฟจากเดิมทาง คสช.กำหนดให้มีขนาด 1.453 เมตร ให้เหลือเพียง 1 เมตร และให้ใช้ผลศึกษาที่มีอยู่แล้วแทนการศึกษาใหม่ ซึ่งทาง กรอ.ฝ่ายภาครัฐก็เห็นชอบด้วยจึงได้มีการทำเป็นมติ กรอ.จ.เชียงราย นำเสนอต่อ คสช.และรัฐบาล ให้ได้รับทราบแล้ว

นายพละวัต ตันศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย กล่าวว่า สาเหตุที่เสนอให้ลดขนาดรางรถไฟลงเนื่องจากมีการศึกษาไว้แล้วตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา เหลือเพียงการแก้ไขผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น หากนำมาใช้ก็สามารถอนุมัติงบประมาณเพื่อก่อสร้างได้ทันที ภายใต้งบประมาณราว 70,000 ล้านบาท

แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันกลับให้ศึกษาใหม่ โดยใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ทำให้ต้องยืดเวลาออกไปอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี รวมทั้งยังต้องศึกษาเส้นทางตั้งแต่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา-จ.เชียงราย ด้วย

นายพละวัตกล่าวอีกว่า การลดขนาดรางรถไฟลงเหลือเพียง 1 เมตรนั้นจะไม่เป็นปัญหา เพราะการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟถึงเชียงรายจะเน้นการขนส่งสินค้าไปด่านพรมแดนต่างๆ มากกว่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วเหมือนกั[ขนคน ส่วนการโดยสาร หรือขนคนนั้นปัจจุบันมีเส้นทางทางเครื่องบินต้นทุนต่ำหรือโลว์คอสต์อยู่แล้ว น่าจะสามารถตอบโจทย์เรื่องการเดินทางได้มากกว่า

ด้านการเชื่อมโยงกับระบบรางของจีนที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เพราะการขนส่งสินค้าชายแดนไม่ได้ใช้ความเร็วทะลุด่านพรมแดนทันที แต่จะมีการขนย้าย ยกคอนเทนเนอร์ เปลี่ยนหัวลาก ฯลฯ รวมทั้งในปัจจุบันจีนลดการเชื่อมโยงระบ[รางผ่านพรมแดนด้าน จ.เชียงราย แต่มุ่งเน้นใช้เส้นทางผ่าน สปป.ลาว-จ.หนองคาย มากกว่า

ดังนั้น หลังจาก กรอ.เชียงรายนำเสนอเรื่องนี้ไปแล้วจะมีการติดตามเรื่อง และจะเสนอกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 คือ จ.พะเยา แพร่ และน่าน ให้ร่วมเห็นชอบด้วย เพื่อนำเสนอเป็นมติ กรอ.ภาคเหนือตอนบนต่อรัฐบาล รวมทั้งในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศในปลายเดือน พ.ย.นี้ก็จะมีการจัดมีการนำเสนอเรื่องนี้ไปอีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับโครงการรถไฟเด่นชัย-เชียงราย มีการศึกษาจากรัฐบาลไทยมาตั้งแต่ปี 2503 และสำรวจพื้นที่ในปี 2512 ใช้เส้นทางเด่นชัย-แพร่-สอง-เชียงม่วน-ดอกคำใต้-พะเยา-ป่าแดด-เชียงราย ระยะทางรวม 273 กิโลเมตร ต่อมาปี 2537-2538 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการทบทวนผลการศึกษาได้ข้อสรุปว่าเส้นทางเด่นชัย-แพร่-สอง-งาว (ลำปาง)-พะเยา-เชียงราย ย่นระยะทางเหลือประมาณ 246 กิโลเมตร ช่วงแรกจะใช้งบประมาณเพียง 2.2 ล้านบาท ทำให้ในปี 2539-2541 ทาง ร.ฟ.ท.จึงได้ว่าจ้างเอกชนให้สำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบ จนมีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในปี 2544

กระทั่งปี 2547 รัฐบาลในขณะนั้นได้ให้ศึกษาความเหมาะสมอีก โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เชื่อมกับจีนตอนใต้ และปี 2551 ยังให้ศึกษาเพื่อให้เชื่อมชายแดน จ.เชียงราย และระบบรางของจีนได้

ปี 2553-2554 จึงได้เริ่มศึกษารถไฟแบบรางคู่ เพื่อให้มีขนาดกว้างขึ้นเป็น 1.453 เมตร และกรณีเส้นทางใน จ.เชียงราย ให้แยกเส้นทางไปยังท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน และสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว ที่ อ.เชียงของ อีกด้วย

ทั้งนี้ แนวเส้นทางล่าสุดที่ศึกษาจึงมีระยะทางรวมประมาณ 323.1 กิโลเมตร กำหนดให้มีทั้งหมด 26 สถานีผ่าน จ.แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย และมีการเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์เพื่อเชื่อมเส้นทาง อ.เชียงของ ด้วย คาดการณ์กันว่าหากก่อสร้างในปัจจุบันจะใช้งบประมาณเพิ่มมากขึ้นเป็น 77,275 ล้านบาท