พิษณุโลก - พยานปากเอก “น้องเจ๋ง” 1 ใน 2 เพื่อนน้องต๊อก ย้ำเพื่อนจมน้ำเสียชีวิตธรรมดา ไม่มีใครทำร้าย ขณะที่แม่พยานวอนอย่าตีตราบาปลูกเป็นฆาตกร บอกอยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ ลูกจะได้เรียนหนังสือเหมือนคนปกติ ด้านผู้บังคับการตำรวจพิษณุโลกบอก เตรียมเชิญ “แม่น้องต๊อก และฟิล์ม” ให้ปากคำใหม่
เที่ยงวันนี้ (16 ต.ค.) นางวิมล คุ้มภัย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/129 หมู่บ้านบัวสีเงิน ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พาน้องเจ๋ง (นามสมมติ) บุตรชายมาชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวที่บริเวณสระน้ำที่พบศพน้องต๊อก หรือ ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุวัตร จมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะไม่สบายใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เนื่องจากวันเกิดเหตุน้องเจ๋งมาเล่นน้ำในสระกับน้องต๊อก พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คนคือน้องฟีล์ม (นามสมมติ) รวมเป็น 3 คน และนางกัลยา เกตุนาวา ผู้เป็นมารดาของน้องต๊อก ระบุว่าลูกเสียชีวิตเงื่อนงำ ขณะที่น้องฟิล์มกลับให้การเป็นผู้ลงมือทำร้ายน้องต๊อกจนเสียชีวิต เหตุไปรู้เห็นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด.ช.เจ๋ง (นามสมติ) กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตน, ต๊อก และฟิล์ม รวม 3 คน ชวนกันมาเล่นน้ำที่สระน้ำ โดยต๊อกว่ายน้ำไป-มาจากขอบสระฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง 2 รอบ โดยตนเอง และฟิล์ม จะเล่นอยู่ที่ขอบสระ จากนั้นต๊อกก็จมน้ำ ขณะนั้นตนก็กำลังจะลื่นตกขอบสระ ทำให้ฟิมล์มาดึงมือตนไว้ และเห็นต๊อกจมน้ำไป
ด.ช.เจ๋งบอกอีกว่า ขณะนั้นมีเด็กร้านส้มตำหน้าปากซอยมาขอเล่นน้ำด้วย แต่ก็ยังไม่ได้เล่น กลับเห็นต๊อกกำลังจมน้ำ ก็ถามว่าต๊อกเป็นอะไร ซึ่งตนเองก็คิดว่าแกล้งจมน้ำเสียอีก ไม่คิดว่าจะจมน้ำจริงๆ จึงได้ไปแจ้งคนงานก่อสร้างมาช่วย ซึ่งตนขอยืนยันว่า ต๊อกไม่ได้ถูกทำร้ายก่อนโยนทิ้งลงน้ำแต่อย่างใด
หลังจากเกิดเหตุตนก็เรียนตามปกติ เนื่องจากเชื่อว่าต๊อกจมน้ำเสียชีวิต แต่ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีญาติของต๊อกมาพูดลักษณะข่มขู่ ตนก็แปลกใจว่าทำไมต้องย้ำว่า ให้พูดความจริง ทั้งๆ ที่เพื่อนจมน้ำธรรมดา
นางวิมล คุ้มภัย แม่ของน้องเจ๋ง กล่าวว่า ตนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลกไว้แล้ว 3 ครั้ง เนื่องจากครั้งแรกกลัวลูกจะได้รับอันตรายเพราะว่ามีคนมาข่มขู่ ส่วนครั้งที่ 2 มีญาติผู้เสียชีวิตมาหาที่บ้าน แล้วบอกว่าให้พูดเหมือนกันกับเหตุการณ์ทำร้ายน้องต๊อก ซึ่งตนเองคิดว่าไม่ใช่ความจริง และกลัว ก็แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
และครั้งที่ 3 คือ เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ได้แจ้งความหมิ่นประมาท เนื่องจากนางกัลยา กล่าวหาว่าลูกชายตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายน้องต๊อกจนเสียชีวิต
หัวอกของคนเป็นแม่ก็น่าจะเข้าใจว่าไม่น่าเอาลูกของคนอื่นมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทำร้ายกันจนเสียชีวิต และยาเสพติด เพราะลูกชายเล่นแต่เกม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยากให้นางกัลยาหยุดเอาลูกของตนไปเกี่ยวข้อง
วันเดียวกัน พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาดูพื้นที่เกิดเหตุคดีน้องต๊อก หรือ ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุวัตร ที่จมน้ำเสียชีวิต เพราะมารดาของน้องต๊อกร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การตายของบุตรชายมีเงื่อนงำ คาดว่าจะเป็นการฆาตกรรมของขบวนการยาเสพติดในพื้นที่ เนื่องจากน้องต๊อกอาจเข้าไปรู้เห็น และน้องฟิล์ม (นามสมมติ) เพื่อนที่ไปเล่นน้ำด้วยกันกลับให้การว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร ตามคำสั่งขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้ ผช.ผบ.ตร.สั่งรื้อคดีให้ทราบผลภายใน 7 วัน
โดยแนวทางของตำรวจชุดสืบสวนนั้นก็ยังใช้ชุดเดิม แต่จะทำการควบคุมร่วมกับจเรตำรวจเพื่อความโปร่งใส พร้อมทั้งจะออกหนังสือเชิญนางกัลยา เกตุนาวา มารดาของน้องต๊อก และน้องฟิล์ม (นามสมมติ) มาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ตามแนวทางของคดี
ส่วนกรณีแม่ของน้องเจ๋ง (นามสมมติ) เพื่อนอีกคนที่ไปเล่นน้ำกับน้องต๊อกในวันเกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดนางกัลยา แม่ของน้องต๊อก ข้อหาหมิ่นประมาท กล่าวหาว่าบุตรชายเป็นผู้รู้เห็นและลงมือฆ่าน้องต๊อกนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็จะเรียกตัวมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเช่นกัน
พล.ต.ต.พิสิฐกล่าวอีกว่า เรื่องของยาเสพติดนั้นตนจะเข้าไปรายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้กับนายจักริน เปลี่ยนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทำการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ยาเสพติดในจังหวัดพิษณุโลก จะไม่รุนแรง และไม่ใช่รายใหญ่ก็ตาม แต่ก็ตามปราบปรามไม่ให้เยาวชนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และจะทำงานรณรงค์การป้องกันควบคู่กันไปด้วย