ภาค ปชช.บุกจี้ทบทวน “สปช.” โคราช แฉประวัติสุดฉาว ทุจริตในองค์กร-ชู้สาวกับลูกน้อง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ภาค ปชช.โคราชบุกยื่นหนังสือเรียกร้องตรวจสอบทบทวน สปช.โคราช ชี้ไม่สง่างาม แฉประวัติสุดฉาวมีปัญหาทั้งเรื่องชู้สาวกับลูกน้องทั้งที่มีครอบครัวแล้ว ทุจริตในองค์กร และมีคดีฟ้องร้องในศาลเพียบ ซ้ำร้ายขนคนมาลงคะแนนเพื่อให้ได้ตำแหน่งก่อนสมัคร สปช. ระบุเดินหน้าร้อง มทภ.2 และประธาน คสช. ด้านประธาน กก.สรรหาพร้อมนำเข้าที่ประชุมและเรียกเจ้าตัวมาชี้แจง ก่อนแจ้ง คสช.พิจารณา

วันนี้ (15 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา กม.12 ถนนมิตรภาพ บ้านหนองกระดังงา ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานเครือข่ายคนโคราชรักสันติ พร้อมด้วย นายชุบ ชัยฤทธิไชย ทนายความภาคประชาชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์ ประธาน กกต.จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอให้ตรวจสอบ ทบทวน และแก้ไขปัญหากรณีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจังหวัดนครราชสีมามีประวัติและที่มาไม่โปร่งใส ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง

ทพ.ศุภผลกล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมามีข้อสงสัยและความกังวลเกี่ยวกับตัวนายกษิดิ์เดชธนทัต เสกขุนทด สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับคัดเลือกจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เป็น สปช. ในฐานะตัวแทนประชาชนจังหวัดนครราชสีมา เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลหลายด้านพบว่า นายกษิดิ์เดชธนทัตนั้นแทบไม่มีคนรู้จัก ไม่เคยปรากฏความคิดเห็นต่อส่วนรวม ไม่เคยเข้าร่วมหรือเคยทำกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมในทางที่ดีของจังหวัดนครราชสีมา หรือกระทั่งกิจกรรมการปฏิรูป ซ้ำยังปรากฏมีความไม่สง่างาม มีประวัติการทำงานอันน่าบกพร่องด่างพร้อย ส่อไปในทางทุจริต และมีความไม่เหมาะสมหลายประการสำหรับฐานะของตัวแทนประชาชนโคราช ในสภาปฏิรูปแห่งชาติ

จากการตรวจสอบยังพบว่า นายกษิดิ์เดชธนทัต เดิมชื่อ นายสำเริง เสกขุนทด หรือ นายแป๊ะ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เคยทำงานเป็นผู้จัดการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ในช่วงที่ยังทำงานอยู่มีเหตุต้องให้ออกมาจากตำแหน่งเนื่องจากได้สร้างปัญหายุ่งยากในองค์กร ใน 2 ประเด็นหลัก คือ

1. เรื่องขาดคุณธรรม ไร้จริยธรรม เนื่องจากมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานฯ ซึ่งเป็นลูกน้องตัวเองอย่างเปิดเผยทั้งที่มีครอบครัวแล้ว

2. เรื่องการทุจริต โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่อนุมัติจ่ายเงินออกไปหลายครั้ง รวมเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถแสดงหลักฐานและชี้แจงที่ไปที่มาได้ พอช.ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงและได้ยื่นข้อเสนอให้นายสำเริงลาออกจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังทราบว่ามีคดีอาญาที่ฟ้องร้องกันในศาลอีกหลายคดี ส่วนตำแหน่งสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองจังหวัดนครราชสีมา พบว่าได้มาโดยไม่สุจริตเนื่องจากมีการขนคนมาลงคะแนน และมีการซื้อเสียงเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง

ทพ.ศุภผลกล่าวต่อว่า อีกทั้งในข้อมูลเชิงลึกยังพบว่า นางประชุม ซอมกระโทก ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา สปช. จ.นครราชสีมา และเป็นคนที่เสนอชื่อ นายกษิดิ์เดชธนทัต เป็น 1 ใน 5 ตัวแทน จ.นครราชสีมา เพื่อเสนอให้ คสช.คัดเลือกนั้น ได้ตำแหน่งประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลครบุรี อำเภอครบุรี โดยมีการแสดงเอกสารหลักฐานการจดแจ้งจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลครบุรีไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการปลอมลายมือชื่อในเอกสารของสมาชิกกลุ่มชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลครบุรี ซึ่งมีการทำหนังสือร้องเรียนกลุ่ม นางประชุม ซอมกระโทก ลงวันที่ 20 ก.ย. 2555 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในเวลานั้น รวมทั้งส่งไปยัง สภ.ครบุรี อำเภอครบุรี, สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง และสำนักงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) แล้ว

“ฉะนั้นภาคประชาชนจึงเห็นว่า นายกษิดิ์เดชธนทัต เสกขุนทด ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง สปช.จังหวัดนคราชสีมา และต้องการให้ คสช.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและดำเนินการต่อไป ซึ่งจากนี้ภาคประชาชนจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือให้แม่ทัพภาคที่ 2 และประธาน คสช. ต่อไป” ทพ.ศุภผลกล่าว

ด้าน พล.ท.อัศวินกล่าวว่า เป็นกรณีแรกที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับตัว นายกษิดิ์เดชธนทัต ซึ่งตนได้ให้ผู้ร้องแยกประเด็นให้ชัดเจน ทั้งเรื่องการขาดคุณสมบัติ และขาดจริยธรรม จากนั้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ทั้ง 5 คนภายในสัปดาห์หน้า และเรียกตัวนายกษิดิ์เดชธนทัตมาชี้แจง ก่อนลงมติและนำเสนอต่อ คสช. เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวมีการโปรดเกล้าฯ แล้ว การถอดถอนคงทำได้ยาก เว้นแต่ผู้ที่ได้รับคัดเลือก สปช.จะลาออกเอง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าในขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดนั้นได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว เพราะเราพิจารณาเรื่องคุณสมบัติตามเอกสารที่ยื่นมา ส่วนเรื่องจริยธรรมหรือเรื่องอื่นๆ จะมีการตรวจสอบและมีการแจ้งเข้ามาภายหลัง โดยทุกขั้นตอนโปร่งใส และไม่มีการล็อกสเปกได้ เพราะการพิจารณาคัดเลือกขั้นตอนสุดท้ายอยู่ที่ คสช. และการเลือกตัวแทน จ.นครราชสีมา 5 คนส่งให้ คสช.คัดเลือก มีการปิดเป็นความลับทางคณะกรรมการฯ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่มีแพร่งพรายออกไปแต่อย่างใด