ศรีสะเกษ- ผู้ว่าฯ เขมรยกคณะบุกสำรวจตลาด “เมืองใหม่ช่องสะงำ” ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมหนุนการค้าและการท่องเที่ยวรับเออีซี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย พร้อมด้วย นายซาน วันนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย พล.ท.ลือ จันดารา รอง ผบ.รักษาชายแดน นายยิ้ม พรรณนา นายอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา และคณะ ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่บริเวณเมืองใหม่ช่องสะงำ ซึ่งเป็นตลาดค้าขายแห่งใหม่ย้ายมาจากตลาดเก่าที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ เข้ามาในเขตแดนไทยประมาณ 2.5 กิโลเมตร (กม.)
โดยลูกค้าที่เข้ามาหาซื้อสินค้าที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำส่วนมากแล้วเป็นชาวกัมพูชาจากเมืองอัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนช่องสะงำ โดยมี นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับมอบจาก นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับและลงพื้นที่ในครั้งนี้
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้มีพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยเข้าไปอยู่ที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำแล้วประมาณ 200 ราย และมีชาวกัมพูชาได้เข้ามาแสดงความจำนงเพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำในการค้าขายแล้วประมาณ 200 รายเช่นกัน อีกทั้งมีนักลงทุนเจ้าของตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ได้แสดงความประสงค์จะเข้ามาลงทุนทำตลาดโรงเกลือศรีสะเกษ ช่องสะงำด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ที่ดินขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ศรีสะเกษ
นอกจากนี้ ทาง จ.ศรีสะเกษได้มีการเชิญ ปตท.ให้เข้ามาเปิดสถานีบริการน้ำมันที่บริเวณเมืองใหม่ช่องสะงำ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตอบรับเข้ามาแล้ว รวมทั้งมีศูนย์ราชการที่พร้อมจะให้บริการด้านการค้าและการท่องเที่ยวแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาบริเวณเมืองใหม่ช่องสะงำเรียบร้อยแล้ว
นายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจดูสภาพบริเวณเมืองใหม่ช่องสะงำแล้ว เห็นว่าบริเวณแห่งนี้มีความพร้อมที่จะเป็นตลาดค้าขายระหว่างชาวกัมพูชากับชาวไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 2.5 กม. สามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้แจ้งให้ประชาชนชาวกัมพูชาได้รับทราบ และพร้อมให้การสนับสนุนเมืองใหม่ช่องสะงำเป็นตลาดค้าขายระหว่างชาวไทยกับชาวกัมพูชา ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองจังหวัดเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นการเตรียมพร้อมของทั้งสองประเทศในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ต่อไป
