ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักดาราศาสตร์ภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวแปดริ้ว ชวนชมปรากฏการณ์กบกินเดือน หรือ จันทรุปราคา ที่จะผุดโผล่ขึ้นเหนือชายขอบฟ้าด้านทิศตะวันออก ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ตรงกับวันออกพรรษา ขณะที่สถานศึกษาหลายแห่งต่างให้ความสนใจต่อการเฝ้าติดตามชมปรากฏการณ์ในครั้งนี้กันอย่างคึกคัก
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยถึงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นเหนือชายขอบท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกของประเทศไทย ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ในช่วงก่อนพลบค่ำของเย็นวันที่ 8 ต.ค.57 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาพอดี จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือตามภาษาชาวบ้านอาจเรียกว่า “กบกินเดือน” แบบเต็มดวง
ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ ในประเทศไทยจะสังเกตเห็นได้ในทันทีหลังจากดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าในช่วงก่อนพลบค่ำ ซึ่งเป็นช่วงกลางที่กำลังเคลื่อนเข้าสู่ในช่วงท้ายของการเกิดปรากฏการณ์ ที่เงาของโลกเริ่มจะคลายตัวออกจากดวงจันทร์ โดยหากมองจากตาเปล่าจะเห็นดวงจันทร์แหว่งที่ด้านบน จากนั้นจะค่อยๆ คลายตัวออกจนสิ้นสุดปรากฏการณ์ โดยจะสามารถสังเกตเห็นได้ในระยะเวลาประมาณ 2 ชม. สำหรับในประเทศไทย
ผู้ที่สนใจชมปรากฏการณ์นั้นควรมองหาที่โล่งที่สามารถมองเห็นขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากในวันดังกล่าวไม่มีเมฆฝน ผู้ติดตามสังเกตการณ์ก็จะได้ชมภาพปรากฏการณ์ได้อย่างสวยงาม คือ ภาพดวงจันทร์ดวงใหญ่ๆ ที่เหนือขอบฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการหักเหของแสง ดวงจันทร์ในวันนั้นจะมีสีออกเข้มๆ คล้ายกับดวงจันทร์สีเลือด ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถทำการถ่ายภาพได้ด้วยกล้องถ่ายภาพทุกชนิด ทั้งกล้องจากโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์การถ่ายภาพต่างๆ เก็บไว้ได้ด้วย
โดยจุดเด่นของปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ คือ เราจะเห็นดวงจันทร์ปรากฏอยู่ที่ด้านริมขอบฟ้า จึงมีความสวยงามน่าดูพอสมควร เนื่องจากจะเป็นดวงจันทร์ดวงใหญ่ ตัดกับขอบฟ้าที่มีแบล็กกราวนด์อื่นๆ ตามแต่ละภูมิประเทศของจุดเฝ้าสังเกตการณ์ในจุดต่างๆ ของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะมีความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน
ส่วนกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ได้มีสถานศึกษาในพื้นที่ต่างให้ความสนใจพากันจัดกิจกรรมขึ้นถึง 4 แห่ง คือ ที่ อ.แปลงยาว ที่โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา โรงเรียนแปลงยาวพิทยาคม ส่วนในเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา นั้น จะมีโรงเรียนที่จัดกิจกรรมรวม 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ และโรงเรียนดัดดรุณี โดยทุกโรงเรียนที่จัดกิจกรรมนั้น ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมได้ และจะได้ดูปรากฏการณ์จันทรุปราคา และดูดาวต่างๆ ผ่านทางกล้องดูดาวที่มีประสิทธิภาพ ทั้ง 4 โรงเรียนที่มีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์แล้วทั้งหมด
โดยเฉพาะที่โรงเรียนดัดดรุณีนั้น จะมีการระดมอุปกรณ์มาไว้คอยรองรับประชาชนที่จะมาร่วมงานมากเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับเวลาในการเกิดปรากฏการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นของปรากฏการณ์นั้น ดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามัวในเวลา 15 นาฬิกา 15 นาที 36 วินาที ดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเข้าสู่เงามืดเวลา 16 นาฬิกา 14 นาที 48 วินาที ดวงจันทร์เข้าคราสเต็มดวงในเวลา 17 นาฬิกา 25 นาที 9 วินาที เข้าถึงกึ่งกลางคราสหรือคราสลึกสุดในเวลา 17 นาฬิกา 55 นาที 44 วินาที
ดวงจันทร์เริ่มออกจากเงามืดเวลา 18 นาฬิกา 23 นาที 59 วินาที ดวงจันทร์จะหลุดออกจากเงามืดทั้งดวงในเวลา 19 นาฬิกา 34 นาที 19 วินาที ดวงจันทร์จะออกจากเงามัว และสิ้นสุดปรากฏการณ์ในเวลา 20 นาฬิกา 33 นาที 39 วินาที
โดยในประเทศไทย ดวงจันทร์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันออก ในเวลา 17 นาฬิกา 56 นาที ดวงอาทิตย์จะตกในเวลา 18.00 นาฬิกา โดยปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ สามารถมองเห็นได้ทั้งจากทวีปอเมริกา ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทวีปเอเชีย และออสเตรเลีย ส่วนทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกาไม่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ในครั้งนี้ได้