ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สรรพสามิตภาค 5 แถลงโชว์ผลงานจับกุมแก๊งลักลอบทำสุราเถื่อนรายใหญ่ที่สุดในรอบปี พร้อมยึดของกลางสุราปลอมบรรจุขวดแล้ว รวมทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์อีกเป็นจำนวนมาก พบส่งขายร้านของชำ-ร้านเหล้าตองทั่วเชียงใหม่มานานกว่า 2 เดือน ระบุเฉพาะของกลางที่ยึดได้คิดเป็นมูลค่าภาษีสุราที่ต้องเสียให้รัฐกว่า 4 แสนบาท ชี้ยังมีรายใหญ่อีก 3-4 ราย เร่งขยายผลกวาดล้างเพิ่ม
วันนี้ (22 ก.ย.) สำนักงานสรรพสามิตภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นายสมโภชนรัฐ แก้วน่วม ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต พร้อมด้วยนางสดศรี พงศ์อุทัย ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค 5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบทำสุราเถื่อน (สุราปลอม) ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตและกำลังทหารจากกองร้อยสารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันทำการจับกุมเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 57 โดยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ ผู้ต้องหา 3 คน คือ นายธนธัช อันธิวงศ์ อายุ 63 ปี นายอัศวิน อันธิวงศ์ อายุ 34 ปี และนายจิรวุฒิ อันธิวงศ์ อายุ 30 ปี
ขณะที่ของกลางที่ตรวจยึดไว้ ได้แก่ 1. สุราผสมบรรจุถังสเตนเลสขนาด 50 ลิตร จำนวน 2 ถัง 2. สุราผสมปลอมบรรจุขวดขนาด 0.7 ลิตร จำนวน 105 ขวด 3. สุราผสม ตรา TB BAND จำนวน 21 ขวด 4. แอลกอฮอล์บริสุทธิ์มิชอบด้วยกฎหมาย บรรจุแกลลอนขนาด 20 ลิตร จำนวน 21 แกลลอน 5. แสตมป์สุราผสมที่ใช้แล้ว จำนวน 3,200 ดวง 6. ฝาปิดขวดสุราปลอม จำนวน 4,263 ฝา 7. กล่องบรรจุสุรา จำนวน 1,651 กล่อง 8. หัวเชื้อสำหรับแต่งกลิ่น รส สีบรรจุถัง 5 ลิตร จำนวน 1 ถัง และ 9. อุปกรณ์สำหรับทำสุราอีกจำนวนมาก ทั้งจุกฝาขวด เครื่องปิดฝาสุรา ที่ตวงสุรา กาวลาเท็กซ์ และสลิงฉีดยา
นายสมโภชนรัฐระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหาลักลอบทำสุราเถื่อนสุราปลอมรายนี้นับเป็นผู้กระทำความผิดรายใหญ่ที่สุดที่สำนักงานสรรพสามิตภาค 5 จับกุมได้ในรอบปีนี้ โดยของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดคิดเป็นค่าภาษีสุราทั้งสิ้น 417,927.79 บาท ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ลักลอบทำสุราเถื่อนมาได้ประมาณ 2 เดือน ส่งขายให้ร้านจำหน่ายสุราทั้งร้านขายของชำและร้านเหล้าตองโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอรอบนอกของจังหวัดเชียงใหม่ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว มีโทษทั้งจำและปรับ พร้อมทั้งเร่งทำการติดตามว่าในช่วงที่ผ่านมามีสุราปลอมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ถูกกระจายไปยังที่ใดบ้าง เพื่อตามเก็บ เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้ที่ซื้อไปดื่มได้
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ลักลอบทำสุราเถื่อนอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มผู้กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้อยู่ 3-4 ราย ที่มีการนำหัวเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อทำการปลอมแปลงสุราออกจำหน่าย ทั้งนี้อยากแจ้งเตือนผู้ที่ดื่มสุราให้ระมัดระวังตรวจสอบสุราที่ซื้อไปดื่มให้ดี หากไม่เชื่อมั่นไม่ควรซื้อและไม่ควรดื่ม เพราะการดื่มสุราปลอมแปลงอาจมีอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งหากมีเบาะแสควรแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ