มุกดาหาร - รองผู้ว่าฯ ย้ำปัญหาโกงกินในไทยยังไม่ลด เหตุค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่เป็นอุปสรรค ทั้งบ้าวัตถุ ชอบความสบาย ยกย่องคนที่มีฐานะดีโดยไม่ดูที่มาของความร่ำรวย ขณะที่การบริหารงานของภาครัฐล่าช้า-ไม่โปร่งใส ทางออกเดียวต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องดุสิตา โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ จ.มุกดาหาร มีการจัดฝึกอบรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐใน จ.มุกดาหาร มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจากหน่วยงานราชการบริหารส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมราว 200 คน
นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การทุจริตและประพฤติมิชอบในหน้าที่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศชาติ ทั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต ค่านิยม ตลอดจนการดำรงชีวิต ซึ่งจากดัชนีความโปร่งใสประจำปี 2556 บ่งชี้ว่าประเทศไทยมีการทุจริตอยู่ในอันดับที่ 102 ของโลกจาก 177 ประเทศทั่วโลก (คะแนนเต็ม 100 ได้ 35 คะแนน) อยู่ในอันดับที่ 5 ของอาเซียน และจากผลการศึกษาวิจัยพบว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบมาโดยตลอด ตั้งแต่ระดับประเทศ จนถึงระดับท้องถิ่น และมีแนวโน้มทวีความรุ่นแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปัญหาการทุจริตในประเทศไทยยังไม่ได้ลดน้อยลง เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังมีค่านิยมที่เป็นอุปสรรคในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เช่น ค่านิยมในการบริโภค ความสะดวกสบาย ยกย่องคนที่มีฐานะดี และระบบอุปถัมภ์ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดความเสื่อมของค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีงาม
ประกอบกับปัญหาความล่าช้าและโปร่งใสในการให้บริการของรัฐ การแสวงหาอำนาจและเงินตราโดยไม่คำนึงถึงวิธีการได้มาว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ การละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ
นายสรสิทธิ์กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงได้มีคำสั่งให้ทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหา ซึ่งแนวทางหนึ่งคือ การปฏิบัติตามกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลเสียของการทุจริตประพฤติมิชอบ มีความรู้ความเข้าใจในแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมถึงการกำหนดมาตรการควบคุม เพื่อปิดโอกาสและช่องทางมิให้มีการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบ
และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกคนจะต้องระมัดระวังมิให้เกิดปัญหาการทุจริตขึ้น ทั้งในส่วนของตำแหน่งหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบและในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนจะต้องมีธรรมาภิบาล ไม่ส่งเสริมเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หรือปิดโอกาสในการทุจริตและประพฤติมิชอบ