xs
xsm
sm
md
lg

“กล้านรงค์” ปลุกคนไทยกำจัด “โกง” ปิดช่องโหว่ กม.-ลงโทษให้หนัก(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีต กรรมการปปช.
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “กล้านรงค์” ย้ำถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันกำจัดคอร์รัปชันที่พัฒนามาจากการรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ กลายเป็นการ “คอร์รัปชันเชิงนโยบาย” กินทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ พร้อมปลุกสำนึกคนไทยให้เห็นการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แก้ไขกฎหมายให้รัดกุม ไม่เปิดช่องว่างให้โกง พร้อมมีบทโทษอย่างรุนแรง



วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ห้องประชุมมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น สถาบันต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมธรรมศาสตร์อุดรธานี และกลุ่มอาทรเสวนา ร่วมกันจัดเวทีเสวนาเรื่อง “กำจัดคอร์รัปชั่น..ก้าวแรกของการปฏิรูป” โดยมีนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรนูญ, นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานกรรมการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล สภาพัฒนาการเมือง และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้อำนวยการสถาบันต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นวิทยากร การจัดเสวนาครั้งนี้มีตัวแทนองค์กรธุรกิจและภาคประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายกล้านรงค์กล่าวว่า สมัยแรกที่มีการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเพียงเจ้าหน้ารัฐที่มีการรับสินบน รับของขวัญ ทำงานหลังเกษียณ แต่ปัจจุบันการทุจริตคอร์รัปชันมีความซับซ้อนมากขึ้นกลายเป็นการ “คอร์รัปชันเชิงนโยบาย” มีการกินทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ ใช้อำนาจรัฐในการกำหนดนโยบายให้คนของรัฐได้รับประโยชน์ ประเทศไทยจึงสอบตกเรื่องทุจริตคอร์รัปชันจากการจัดอันดับของ “องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ” โดยปี 2556 ตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 102 จากปี 2555 อยู่อันดับที่ 88 ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของไทยทวีความรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ประชาชนรับรู้แล้วว่าการโกงหรือการทุจริตคอร์รัปชันนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างมากแก่ประเทศ

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่คนในชาติจึงต้องร่วมกันปฏิรูป ทำอย่างไรให้เกิดจิตสำนึกร่วมกันเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันที่ผุดขึ้นทุกวงการ ทุกสาขาอาชีพ และจะทำอย่างไรที่จะหล่อหลอมคนไทยเรื่องนี้ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากเลือกตั้ง เพื่อเป็นกลไกในการตรวจสอบไม่ให้เกิดขบวนการทุจริตคอร์รัปชันแบบเดิมๆ

นายกล้านรงค์ระบุว่า อยากให้คนมองว่าการทุจริตเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจในสังคม ที่เป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ ควรจะยึดหลักในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมายให้รัดกุม ไม่เปิดช่องว่างให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน และมีบทโทษอย่างรุนแรงในคดีทุจริตคอร์รัปชัน

ด้านนายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดเสวนาครั้งนี้เป็นความร่วมมือของ 8 องค์กรธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น, หอการค้าจังหวัดขอนแก่น, ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยจังหวัดขอนแก่น, ชมรมธนาคารจังหวัดขอนแก่น, สมาคมศิษย์เก่า MBA, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น และคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมกับกลุ่มอาทรเสวนาและสถาบันการต่อต้านการคอร์รัปชั่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งองค์กรทุกภาคส่วนในพื้นที่ต่างเห็นพ้องที่จะต้องร่วมมือกันย่างแข็งขันในการกำจัดคอร์รัปชันเพราะถือเป็นก้าวแรกของการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปสังคมไทยให้โปร่งใสตรวจสอบได้

โดยมีความเห็นเช่นเดียวกันว่าปัญหาการคอร์รัปชันทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง กลายเป็นว่าเนื้องานจริงๆ ได้ไม่เกิน 30 บาท อีก 70 บาทกลายเป็นเรื่องคอร์รัปชัน จึงร่วมกันจัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน

“ปัจจุบันประชาชนมองว่านักการเมือง และข้าราชการเป็นต้นเหตุการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ลืมนึกไปว่าภาคเอกชนก็มีส่วนที่ทำให้เกิดทุจริตคอร์รัปชันจากการเรียกสินบน ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องร่วมกันขจัดปัญหาระดับชาตินี้ให้หมดไป” นายวิฑูรย์กล่าว
นายวิทูรย์ กมลนฤเมธ  ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น
นายวสันต์ สร้อยพิสุจน์





กำลังโหลดความคิดเห็น