ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- องค์กรต่อต้านโกง และภาค ปชช.โคราช รวมตัวบุกกองทัพภาค 2 ร้อง “คสช.” แก้ปัญหาร้านอาหารอิทธิพลบุกรุกที่ดินรัฐ “มอปลาย่าง” ริมเขื่อนลำตะคอง เหตุผวาสร้างมลพิษทำแหล่งน้ำใหญ่เลี้ยงชาวโคราชเน่า เผยศาลเคยตัดสินคดีถึงที่สุดให้รื้อถอนออก แต่ภาครัฐไม่ดำเนินการทิ้งปัญหาให้ยืดเยื้อ และยังจะเปิดให้เช่าพื้นที่ ยันต้องรื้อถอนออกไป ลั่นต่อสู้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้ากรณีที่ทางจังหวัดนครราชสีมา โดยธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา จะแก้ปัญหากลุ่มนายทุน พ่อค้าแม่ค้าบุกรุกครอบครองที่ราชพัสดุบริเวณ “มอปลาย่าง” ริมเขื่อนลำตะคอง ข้างถนนมิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าตั้งร้านค้าร้านอาหารกว่า 50 ร้าน กลายเป็นปัญหายืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี ด้วยการจะเปิดให้กลุ่มผู้บุกรุกเช่าใช้พื้นที่เพื่อประกอบกิจการร้านค้า ร้านอาหารต่อไป แทนการให้ออกเพื่อคืนพื้นที่ นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ห้องโถงกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา และประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ ประธานกลุ่ม “เรารักษ์ลำตะคอง” และภาคีเครือข่ายภาคประชาชนรวมกว่า 10 คน ได้เดินทางเข้ายืนหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ผ่านแม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2)
ทั้งนี้ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบการดำเนินการของภาครัฐในกรณีที่จะให้กลุ่มผู้บุกรุกที่ดินของรัฐประกอบกิจการร้านค้าร้านอาหาร บริเวณมอปลาย่าง ริมเขื่อนลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้เช่าใช้ที่ดินของรัฐเพื่อดำเนินกิจการต่อไป แทนการดำเนินการตามกฎหมาย และให้รื้อถอนออกไป โดย พล.ต.ประวิตร หูแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนมารับมอบหนังสือ
นายจักริน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ริมเขื่อนลำตะคอง บริเวณมอปลาย่าง ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ถูกบุกรุกเพื่อประกอบกิจการร้านอาหารเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดมลพิษ และผู้ประกอบการได้ทิ้งสิ่งปฏิกูล น้ำเสียต่างๆ ลงสู่เขื่อนลำตะคองโดยตรง และสิ่งปลูกสร้างของร้านอาหารได้บดบังทัศนียภาพที่สวยงามของเขื่อนลำตะคอง ผู้สัญจรผ่านไปมาไม่สามารถมองเห็นความสวยงามดังกล่าวนั้นได้ ที่ผ่านมา มีผู้ว่าราชการจังหวัดหลายสมัยพยายามแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐบริเวณดังกล่าวมาโดยตลอด
กระทั่งในปี 2549 สมัย นายสุนทร ริ้วเหลือง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ทางกรมชลประทานได้ฟ้องร้องกลุ่มผู้บุกรุกต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว และศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า ผู้บุกรุกมีความผิดตามกฎหมาย และมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกทั้งหมดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากมอปลาย่าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อาจบังคับคดีตามคำสั่งศาลได้ เพราะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้บุกรุก ทางกรมชลประทานไม่สามารถควบคุมพื้นที่ดังกล่าวได้จึงส่งคืนที่ดินให้แก่กรมธนารักษ์ เป็นพื้นที่ 5,800 ไร่ รวมถึงบริเวณมอปลาย่างนี้ด้วย
นายจักริน กล่าวต่อว่า เวลาล่วงเลยมาจนถึงสมัย นายวินัย บัวประดิษฐ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในปี 2556 ได้มีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุเพื่อทำร้านอาหารขึ้น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาเป็นกรรมการ มีมติให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร “มอปลาย่าง” ที่บุกรุกที่ดินรัฐบริเวณริมเขื่อนลำตะคอง จำนวน 51 ราย เช่าที่ดินแทนการให้ออกจากพื้นที่ตามคำสั่งของศาล
ฉะนั้นภาคประชาชนจึงขอเรียกร้องไปยังหัวหน้า คสช. ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเรียกร้องให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างออกจากพื้นที่ และคืนพื้นที่ให้เป็นของส่วนรวม เพราะหากยังให้เป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะยิ่งทำให้มีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง และหากสามารถทำสัญญาเช่าได้จริงจะเป็นบรรทัดฐานให้ที่อื่นทั่วประเทศมีการบุกรุกที่ดินของรัฐอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“กรณีดังกล่าวนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อกลุ่มผู้บุกรุก ซึ่งภาคประชาชน และองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชันจะต่อสู้เรียกร้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด พร้อมขอให้ คสช. ใช้อำนาจหยุดยั้งการทำให้ผู้บุกรุก ซึ่งที่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย กำลังจะกลายเป็นผู้ได้รับสัญญาจากรัฐ” นายจักริน กล่าว