บุรีรัมย์ -โรคตาแดงระบาดหนักที่ จ.บุรีรัมย์ พบผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาตามโรงพยาบาลทั้ง 23 อำเภอ ถึง 7,422 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 3 เท่าตัว ส่วนมากเป็นเด็กอายุ 5-14 ปี ขณะสาธารณสุขเตือนหมั่นล้างมือให้สะอาด และหลีกเลี่ยงใช้สิ่งของร่วมกันผู้ป่วยสกัดการระบาด
วันนี้ (11 ก.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2557 พบผู้ป่วยโรคตาแดงเข้ารับการตรวจรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ กระจายใน 23 อำเภอทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งสิ้น 7,422 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 472.9 ต่อประชากรแสนคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ผู้ป่วยส่วนมากอยู่ในกลุ่มอายุระหว่าง 5-14 ปี อำเภอที่ระบาดมากที่สุด คือ อ.เมืองบุรีรัมย์ นางรอง กระสัง คูเมือง และ อ.สตึก ตามลำดับ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับปี 2556 พบว่า ปีนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 2.9 เท่า โดยปี 2556 มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,557 ราย และสถานที่ที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และแหล่งชุมชนซึ่งหากโรงเรียนใดที่พบว่ามีเด็กป่วยตาแดง ควรให้หยุดเรียนแล้วทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ที่เด็กสัมผัสบ่อย โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู เมาส์คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดเพิ่มขึ้น
นพ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า โรคตาแดงเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง สามารถติดต่อกันได้ง่าย ดังนั้น วิธีป้องกันประชาชนควรหมั่นล้างมือให้สะอาด เพราะจะช่วยลดโอกาสรับเชื้อไวรัสจากการสัมผัสเข้าร่างกายได้มาก หากไม่ล้างมือแล้วมาจับ หรือขยี้ตา มีโอกาสเกิดโรคตาแดง และระบาดสู่คนอื่นได้ง่าย โดยเฉพาะในโรงเรียน หรือสถานที่ต่างๆ ที่อยู่รวมกันหลายคน
ทั้งนี้ หากประชาชนรายใดเริ่มมีอาการผิดปกติ ตื่นเช้ามีขี้ตา ลืมตาไม่ขึ้น ตาบวม ให้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคตาแดง แล้วแยกตัวออกมาจากคนอื่น แยกของใช้ไม่ใช้ปะปนกัน โดยโรคตาแดงไม่มียารักษาเฉพาะ แพทย์จะให้ยาหยอดตา และรักษาตามอาการ บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย ดังนั้น วิธีป้องกันเบื้องต้นควรหมั่นล้างมือ และทำความสะอาดสิ่งของเพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคตาแดง