หนองคาย - โรคตาแดงระบาด หนองคาย พบผู้ป่วยแล้ว 1,812 ราย ขณะที่นายแพทย์สาธารณสุขเตือนหมั่นล้างมือจะช่วยลดความเสี่ยงตาแดง และคัดแยกผู้ป่วยออกทันที โรงเรียนหากพบเด็กป่วยให้หยุดเรียน แล้วล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรค
วันนี้ (9 ก.ย.) สถานการณ์โรคตาแดงที่จังหวัดหนองคาย พบว่า รายงานจากงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย มีผู้ป่วยโรคตาแดง 1,812 ราย อัตราป่วย 353.6 ต่อประชากรแสนคน จำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2557 มากกว่าในช่วงเดียวกันของค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และปี 2556 โดย จ.หนองคาย พบผู้ป่วยตาแดงหนักสุดในพื้นที่ อ.เมืองหนองคาย และ อ.โพนพิสัย
ส่วนสถานการณ์โรคตาแดงทั้งประเทศ พบว่า มีผู้ป่วย 160,906 ราย อัตราป่วย 253.3 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต
นายแพทย์วิวัฒ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า หลังจากพบว่าประชาชนป่วยด้วยโรคตาแดง ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระงับการระบาดของโรค สถานการณ์เริ่มดีขึ้น โรคตาแดงเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ติดเร็ว ติดง่าย คล้ายไข้หวัด ประชาชนควรหมั่นล้างมือให้สะอาด เพราะจะช่วยลดโอกาสรับเชื้อไวรัสจากการสัมผัสเข้าร่างกายได้มาก
หากไม่ล้างมือแล้วมาจับ หรือขยี้ตา มีโอกาสเกิดโรคตาแดง และระบาดสู่คนอื่นได้ง่าย โดยเฉพาะในโรงเรียน และค่ายต่างๆ ที่อยู่รวมกันหลายคน โดยปกติแล้วตาแดงจะเป็นทีละข้าง
เมื่อผู้ป่วยพบว่าตาเริ่มผิดปกติ ตื่นเช้ามีขี้ตา ลืมตาไม่ขึ้น ตาบวม ให้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคตาแดง แล้วแยกตัวออกมาจากคนอื่น แยกของใช้ไม่ใช้ปะปนกัน โดยโรคตาแดงไม่มียารักษาเฉพาะ แพทย์จะให้ยาหยอดตา และรักษาตามอาการ บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจต้องใช้ยาป้ายร่วมกับยารับประทาน
สำหรับโรงเรียนที่พบว่ามีเด็กป่วยตาแดง ควรให้หยุดเรียนแล้วทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ที่เด็กสัมผัสบ่อย โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู เมาส์คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ เป็นต้น และที่สำคัญต้องสอนให้เด็กล้างมือเป็นนิสัยก่อนจะรับประทานอาหาร หรือหยิบจับสิ่งของอื่นๆ