xs
xsm
sm
md
lg

ชาวภูหลวง 11 ครัวเรือน ร้องถูกบังคับคดีบุรีรัมย์ไล่ที่ เพิ่งรู้เพื่อนบ้านหลอกฮุบโฉนดตั้งแต่ปี 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เลย - ชาวบ้านหมู่ 3 ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง 11 ครัวเรือน ร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานอัยการเมืองเลย หลังมีหมายศาลบุรีรัมย์ติดประกาศยึดบ้าน และที่ดินรวมกันกว่า 8 ไร่ ให้พ้นจากพื้นที่ภายใน 45 วัน เผยเพิ่งรู้ถูกเพื่อนบ้านหลอกออกโฉนดฮุบที่ตั้งแต่ปี 12

วันนี้ (8 ก.ย.) ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเลย และสำนักงานสภาทนายความจังหวัดเลย ชาวบ้านหมู่ 3 ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จ.เลย กว่า 30 คน จำนวน 11 หลังคาเรือน เข้าขอความช่วยเหลือ กรณีมีหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ปิดประกาศยึดที่ดินทำกินและอยู่อาศัยทั้ง 11 หลังคาเรือน รวมเนื้อที่ 8 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา ระบุว่า ภายใน 45 วันนับจากปิดประกาศ ต้องออกไปจากพื้นที่ทันที

นอกจากนี้ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะถูกกลุ่มมิจฉาชีพ 18 มงกุฎ อ้างมาจากองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ สามารถวิ่งเต้นล้มคดีในชั้นศาล เอาที่ดินมาคืนให้ทุกคน ทำให้พวกตนหลงเชื่อเสียเงินไปหลายหมื่นบาทแล้ว

นายสามารถ ผาทองที อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 3 ต.แก่งศรีภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2512 นายมะนัด พิลาฤทธิ์ ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน ได้นำเจ้าหน้าที่มาออกโฉนดที่ดินในหมู่ 3 ต.แก่งศรีภูมิ พวกตนจึงร้องขอให้นายมะนัด ช่วยดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้ด้วย เพราะตอนนั้นยังไม่มีใบถือครองสิทธิ ชาวบ้านเองต่างก็ขาดความรู้ จึงมอบหมายให้นายมะนัด เป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด

ต่อมา นายมะนัด ได้รวมพื้นที่ของพวกตนที่ปลูกบ้านอยู่บริเวณซอยเดียวกัน 11 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 8 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา ออกโฉนดฉบับเดียวกัน โดยขณะนั้นนายมะนัด ได้กำชับว่า ห้ามพวกตนพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่มาออกโฉนด พวกตนก็เชื่อฟัง เพราะเห็นเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน หลังจากที่ได้โฉนดมาก็บอกว่าต้องรออีก 5 ปี ถึงแยกโฉนดได้ ต่อมาจากนั้นไม่นาน นายมะนัด ได้หายไปจากหมู่บ้าน จนถึงปัจจุบันก็ไม่มาที่หมู่บ้านอีกเลย

อย่างไรก็ตาม วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือยึดทรัพย์จากสำนักบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศยึดทรัพย์ในแปลงที่ตนอาศัยอยู่ทั้ง 11 หลังคาเรือน พวกตนถึงรู้ว่าถูกนายมะนัด นำเอาที่ดินพร้อมบ้านทั้งหมดไปจำนำกับนายทุนที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้น ยังมีชาย-หญิงคู่หนึ่ง ชื่อนายพงษ์พันธ์ แสนคำพา มาจาก จ.หนองบัวลำภู อ้างว่าเป็นตัวแทนองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ บอกว่าจะช่วยวิ่งเต้นเอาโฉนดที่ดินมาคืนให้ โดยเรียกเก็บเงินไปค่าดำเนินการไปหลายหมื่นบาท เมื่อได้เงินไปแล้วก็เงียบหายไป

“ตอนนี้ก็ใกล้จะครบ 45 วันแล้วตามที่ขีดเส้นตาย จึงมาขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือจากสำนักอัยการจังหวัด และสภาทนายความ ไม่เช่นนั้นก็ต้องออกจากที่ดิน และไม่รู้จะไปอยู่ไหน”



กำลังโหลดความคิดเห็น