ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สนามบินกระบี่เดือด ม็อบกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกินปะทะชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมหน้าสนามบินหวั่นทำลายภาพลักษณ์ ส่งผลทั้ง 2 ฝ่าย เจ็บระนาว เจ้าหน้าที่หย่าศึกยอมสลายตัวโดยสงบ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 13 พ.ย. ) พ.ต.ท.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.สภ.ปลายพระยา นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ ประมาณ 1,000 นาย เข้าผลักดันกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดิน ที่ยังคงปักหลังยึดที่ดินสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมันของบริษัทยูนิวานิชจำกัด ม.9 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำที่ดินที่หมดอายุสัมปทาน มาจัดสรรให้กับคนจนตามมติครม.2546
โดยกลุ่มผู้บุกรุกกระจายปลูกเพิงพักในพื้นที่สวนปาล์ม เนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ ซึ่งจะหมดอายุสัมปทาน ในปี 2566 โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนมที่มาชุมนุมปักหลักขวางหน้าประตูทางข้าจำนวนกว่า 60 คน ซึ่งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไป เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมยอมออกจากพื้นที่ไปบางส่วน หากยังไม่ออกก็จะดำเนินการใช้กำลังผลักดัน จากนั้นกลุ่มชาวบ้านทยอยกันหลบหนีไปอยู่ใจกลางสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นและควบคุมตัวใส่รถควบคุมตัวผู้ต้องขังได้ประมาณ 100 คน นำส่งกองร้อยตำรวจตระเวนที่ 426กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมานายสุมลตรี สุขดำ นายกสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง ประมาณ 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณถนนทางเข้าสนามบินกระบี่ เพื่อกดดันและตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่นำกำลังเข้าสลายการชุมนุมของสมาชิกในสวนปาล์มหมดสัมปทาน ของ บ.ยูนิวานิช อ.ปลายยา ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กว่า 2 กองร้อย เพื่อป้องกันก่อความวุ่นวายหรือเข้าไปในบริเวณสนามบิน
แต่อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มม็อบเรียกร้องที่ดินสวนปาล์มออกมากดดันเจ้าหน้าที่บริเวณสนามบิน เนื่องจากกลัวเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ก็ได้เข้าไปห้ามปรามและต่อว่ากลุ่มม็อบ จนทำให้เกิดการปะทะตุบตีกันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ที่ปักหลักอยู่ภายในสนามบินออกมาอย่าศึก พร้อมเจรจาให้ยุติ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ได้สลายตัวไป โดยล่าสุดเหตุการณ์ทั่วไปกลับสู่สภาวะปกติ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 13 พ.ย. ) พ.ต.ท.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.สภ.ปลายพระยา นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ ประมาณ 1,000 นาย เข้าผลักดันกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดิน ที่ยังคงปักหลังยึดที่ดินสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมันของบริษัทยูนิวานิชจำกัด ม.9 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำที่ดินที่หมดอายุสัมปทาน มาจัดสรรให้กับคนจนตามมติครม.2546
โดยกลุ่มผู้บุกรุกกระจายปลูกเพิงพักในพื้นที่สวนปาล์ม เนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ ซึ่งจะหมดอายุสัมปทาน ในปี 2566 โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนมที่มาชุมนุมปักหลักขวางหน้าประตูทางข้าจำนวนกว่า 60 คน ซึ่งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไป เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมยอมออกจากพื้นที่ไปบางส่วน หากยังไม่ออกก็จะดำเนินการใช้กำลังผลักดัน จากนั้นกลุ่มชาวบ้านทยอยกันหลบหนีไปอยู่ใจกลางสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นและควบคุมตัวใส่รถควบคุมตัวผู้ต้องขังได้ประมาณ 100 คน นำส่งกองร้อยตำรวจตระเวนที่ 426กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมานายสุมลตรี สุขดำ นายกสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มของบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง ประมาณ 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณถนนทางเข้าสนามบินกระบี่ เพื่อกดดันและตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่นำกำลังเข้าสลายการชุมนุมของสมาชิกในสวนปาล์มหมดสัมปทาน ของ บ.ยูนิวานิช อ.ปลายยา ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กว่า 2 กองร้อย เพื่อป้องกันก่อความวุ่นวายหรือเข้าไปในบริเวณสนามบิน
แต่อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มม็อบเรียกร้องที่ดินสวนปาล์มออกมากดดันเจ้าหน้าที่บริเวณสนามบิน เนื่องจากกลัวเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ก็ได้เข้าไปห้ามปรามและต่อว่ากลุ่มม็อบ จนทำให้เกิดการปะทะตุบตีกันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ที่ปักหลักอยู่ภายในสนามบินออกมาอย่าศึก พร้อมเจรจาให้ยุติ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ได้สลายตัวไป โดยล่าสุดเหตุการณ์ทั่วไปกลับสู่สภาวะปกติ