พระนครศรีอยุธยา - ปภ.พระนครศรีอยุธยา เผยระดับน้ำสายหลักในกรุงเก่าเริ่มสูงขึ้นเหลืออีก 75 ซม.น้ำจะล้นตลิ่ง หลังจากที่ฝนถล่มทั้งคืนที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านขนสิ่งของ และรถจักรยานยนต์ รถส่วนตัวขึ้นไว้ริมถนนแล้ว ด้านกรมโยธาธิการและผังเมือง จับมือเทศบาลเมืองคลองหลวง เร่งกำจัดผักตบชวาในลำคลองส่งน้ำที่หนึ่ง เพื่อรองรับปริมาณน้ำ คาดใช้เวลา 20 วัน
วันนี้ (7 ก.ย.) นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า วันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำด้วยความเร็ว 998 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากวันก่อน แต่ก็ยังทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักต่างๆ ของจังหวัดสูงขึ้นอีก 5-7 เซนติเมตร (ซม.) เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังทำให้น้ำจากคลองบางหลวง อ.บางบาล รวมทั้งคลองโผงเผง ที่ไหลมาจาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำก็เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน และจากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ระดับน้ำเหลืออีก 75 เซนติเมตร น้ำก็จะล้นตลิ่ง
ส่วนที่ ต.หัวเวียง ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำน้อยหลายหมู่บ้านได้รับผลกระทบ น้ำท่วมบริเวณใต้ถุน ต้องใช้เรือช่วยในการเดินทาง บางบ้านได้ขนสิ่งของและรถจักรยานยนต์ รถส่วนตัวมาไว้ที่ริมถนน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เกิดฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี มีปริมาณสูงขึ้น และเกิดน้ำท่วมขังบางจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำ
ส่วนที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย ดร.กานต์เปรมปรีดิ์ ชิตานนท์ ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการกำจัดผักตบชวา ในลำคลองส่งน้ำบริเวณชุมชนผาไทผาเมือง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากเริ่มดำเนินการกำจัดผักตบชวาเมื่อหลายวันที่ผ่านมา
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันบูรณาการในการกำจัดวัชพืชที่เจริญเติบโตภายในลำคลองส่งน้ำที่หนึ่ง ซึ่งมีความกว้าง 30 เมตร ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อกำจัดวัชพืชที่เจริญเติบโตภายในลำคลองให้น้ำได้ระบายได้สะดวก และมีพื้นที่ในการรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่งเรือกำจัดผักตบชวา 3 ลำ เข้าทำการกำจัดเก็บผักตบชวา เสริมกับกำลังคน และรถแบ็กโฮ ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไป 20 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 20 วัน
สำหรับคลองส่งน้ำที่หนึ่ง รับน้ำจากคลองระพีพัฒน์ จาก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อระบายลงสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ก่อนจะผ่านประตูระบายน้ำ และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นคลองที่สำคัญเพราะหากเป็นช่วงฤดูน้ำหลากจะมีการปิดกั้นประตูระบายน้ำ และใช้การสูบออกคลองส่งน้ำที่หนึ่ง ใกล้จุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณโรงสูบน้ำประตูน้ำจุฬาลงกรณ์มากที่สุด
