กำแพงเพชร - ทหารพรานรุดเข้าช่วยเหลือหญิงสาวชาวกำแพงเพชร ร้องขอความเป็นธรรม ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนพิการ ผ่านมา 14 ปี คดีไม่คืบหน้า ส่วนพ่อประสบอุบัติเหตุเป็นผู้พิการ อยู่อย่างลำบากวอนสังคมให้การช่วยเหลือ
รายงานข่าวจากจังหวัดกำแพงเพชร แจ้งว่า วันนี้ (6 ก.ย.) ที่บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ 7 หมู่บ้านนาถัง ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.สายฝน มาน้อย อายุ 27 ปี พิการเดินไม่ได้มานาน 14 ปี สาเหตุเนื่องจากเมื่อ 14 ปีก่อน ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีรุ่นพี่เข้ามาทำร้ายเพื่อน น.ส.สายฝน จึงเข้าไปห้าม จากนั้นก็ถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมา ได้อัดคลิปลงในเฟซบุ๊กเล่าถึงความเป็นมาของสาเหตุที่พิการ
หลังจากเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ทำให้ พ.ต.ปรีชา ชมชาติ นายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารพรานที่ 35 อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานนับสิบนาย เดินทางไปให้การช่วยเหลือ โดยจัดการเก็บกวาดบ้าน และตัดถางหญ้า รวมทั้งวัชพืชต่างๆ ที่ขึ้นรกชัฏในบริเวณบ้าน ซึ่งใต้ถุนบ้านมีน้ำขังจากฝนที่ตกลงมาช่วงนี้ ส่วนบนบ้านที่รกรุงรังก็จัดการเก็บกวาดเข้าที่ให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น
โดย น.ส.สายฝน ได้เล่าให้ พ.ต.ปรีชา ฟังว่า หลังจากที่ถูกรุมทำร้ายแล้วผ่านไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ รู้สึกปวดสะบักหลักข้างซ้าย และขวา ขาทั้ง 2 ข้างชา จากนั้นได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ได้ลงความเห็นว่าต้องทำการผ่าตัด
แต่หลังการผ่าตัดรักษาแล้วก็ไม่หายจนกลายเป็นคนพิการอัมพาต ร่างกายไม่มีความรู้สึกตั้งแต่ลิ้นปี่ลงไป ปัสสาวะ และอุจจาระไม่รู้สึกตัว ขาทั้ง 2 ข้างขยับไม่ได้ พบฝีหนองในช่วงกระดูกสันหลังใช้เวลารักษาอาการนานถึง 1 ปี แต่อาการอัมพาตของร่างกายท่อนล่างก็ไม่หาย จนต้องกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังมาโดยตลอด สุดท้ายก็เรียนไม่ได้ต้องเดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร
น.ส.สายฝน เปิดเผยต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุแล้วได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ มี 4 คนที่ถูกดำเนินคดีโดยยอมชดใช้เป็นค่าเสียหายคนละ 1 หมื่นกว่าบาท ผ่อนชำระเดือนละ 3,000 บาท ส่วนรุ่นพี่เหลืออีก 3 คน ยังไม่ถูกดำเนินคดี และ 1 ในนั้นเป็นลูกตำรวจ จึงได้อัดคลิปลงเฟซบุ๊กร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง และหลังจากที่ข่าวออกไป
ต่อมา เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งว่า ทางตำรวจจับกุมตัวคนที่เหลืออีก 3 คน รวมทั้งลูกตำรวจได้แล้ว ซึ่งตนต้องการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างยุติธรรม โดยเปิดใจบอกแก่ผู้ที่รุมทำร้ายตนว่า หากแลกกันได้เงินที่ได้รับค่าชดเชยที่ได้มา แลกกับความสูญเสียทั้งชีวิตของตนเองยังไม่ได้เลย อยากให้คนที่รุมทำร้ายตนมาเป็นแบบตนบ้างจะได้รู้ว่าความพิการที่ตนเป็นอยู่นั้นลำบากเพียงใด
ความฝันที่จะเรียนแล้วสอบเข้ารับราชการเป็นพยาบาลช่วยรักษาผู้ป่วย และรักษาแม่ที่มีอาการปวดขามาโดยตลอด ความฝันดังกล่าวได้สูญหายไป เรียนก็ไม่ได้ แต่กลายมาเป็นผู้พิการแทน แม่เสียใจมากจนเสียชีวิตไปแล้ว จึงต้องอยู่กับพ่อตามลำพัง 2 คน และพ่อก็มาประสบอุบัติเหตุส่งผลให้ขาพิการอีก 1 คน ในแต่ละเดือนได้รับเบี้ยผู้พิการของตนเอง และพ่อ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และตนก็ยังรับจ้างพิมพ์รายงานได้ครั้งละ 50 บาท นำเงินที่ได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้บ้าง
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ พ.ต.ปรีชา ได้ปรึกษากับ นายอานนท์ อภิชาตตรากูล นายกเทศมนตรี ต.พรานกระต่าย โดยทางนายกเทศมนต รีจะทำเรื่องของบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย สร้างบ้านเทิดไท้ให้แก่ น.ส.สายฝน
ส่วนเงินช่วยเหลือหลังจากที่เป็นข่าวได้มีคนโอนเงินมาให้การช่วยเหลือประมาณ 150,000 บาท และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ พ.อ.กฤช พันธะสา ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 35 อ.คลองลาน จะเดินทางมามอบสิ่งของ และหาแนวทางช่วยเหลืออีกครั้ง ตามนโยบายคืนความสุขให้แก่ประชาชนของ คสช.
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาพรานกระต่าย บัญชีประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.สายฝน มาน้อย หมายเลขบัญชี 203-2-917790-1 หรือจะสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-4383-7378