ศูนย์ข่าวภูมิภาค - น้ำยมเพิ่มระดับสูงขึ้นล้นตลิ่งเข้าท่วมตัวเมืองสุโขทัยอ่วมทั้งเรือนจำ ศาลากลาง และที่ว่าการอำเภอ คาดอีก 2-3 วันจะถูกน้ำเหนือจากแพร่ถล่มซ้ำเพิ่มระดับสูงมากขึ้น ขณะที่ "แพร่" เตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะถึงใน 24 ชั่วโมงนี้ ขณะที่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมบางพื้นที่แล้ว เตือน "พรหมพิราม-บางระกำ-อ่างทอง-อยุธยา" รับช่วงน้ำท่วมคิวต่อไป กรมอุตุนิยมวิทยาเดือน 5-7 ก.ย.เหนือ-อีสานฝนตกเพิ่มขึ้น
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุโขทัยว่า ยังคงวิกฤตโดยเฉพาะที่หมู่ 7 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย กับหมู่ 5 ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง บ้านเรือนราษฎรรวมกว่า 700 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง บางจุดลึกเกือบ 2 เมตรและมีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตก ประกอบกับมีน้ำเหนือจาก จ.แพร่ ไหลบ่าลงมาสมทบ คาดว่าอีก 2-3 วัน สถานการณ์น้ำท่วมจะขยายวงกว้าง และรุนแรงเพิ่มขึ้น
ส่วนพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีระดับน้ำยมยังทรงตัว บริเวณถนนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสุโขทัย ยังมีน้ำท่วมขังรวมทั้งที่ศาลากลางจังหวัด เรือนจำจังหวัด และชุมชนพระแม่ย่า ประชาชนต้องเดินลุยน้ำออกมานอกบ้าน รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้แล้ว
นอกจากนี้ ตลิ่งแม่น้ำยมที่หมู่ 7 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 240 หลังคาเรือน บางจุดลึกเกือบ 2 เมตร ส่วนทรัพย์สินมีค่าทั้งรถจักรยานยนต์ รถไถนา เครื่องมือการเกษตรต่างๆ ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก เพราะไม่สามารถย้ายหนีได้ทัน
ด้านกำลังเจ้าหน้าที่จาก อบต.ปากแคว และจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ตชด.ค่ายรามคำแหงสุโขทัย พร้อมหน่วยกู้ภัยได้มีการเร่งวางแนวกระสอบทรายตามจุดเสี่ยง และนำเรือท้องแบน 6 ลำ มาช่วยอพยพราษฎรที่ยังติดค้างอยู่ในบ้าน ส่วนถนนสายวังไม้ขอน หมู่ 7 และถนนจรดวิถีถ่อง หมู่ 4 หน้าการประปาส่วนภูมิภาค ต.ปากแคว มีน้ำท่วมถนนสูง 30 ซม. เป็นระยะทาง 300 เมตร รถเล็กสัญจรลำบาก
ส่วนพื้นที่นาข้าวในพื้นที่ ต.บ้านสวน ต.บ้านยางซ้าย ต.บ้านหลุม อ.เมืองสุโขทัย ที่กำลังประสบภาวะน้ำท่วม ชาวนาต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ในขณะที่ต้นข้าวยังไม่แก่เต็มที่เพียงได้แค่ 60% ส่วนใหญ่ยังอ่อนไม่สามารถเกี่ยวได้ ต้องปล่อยรอให้น้ำท่วม เพราะไม่คุ้มกับค่าจ้างรถเกี่ยว
นายอนันต์ งาวทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/3 หมู่ 7 ต.บ้านหลุม อ.เมืองสุโขทัย มีนาอยู่ 40 ไร่ บอกว่า สามารถเกี่ยวได้ไม่เกิน 15 ไร่ นอกนั้นต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่เกินเกวียนละ 5,000 บาท และต้องยอมรับว่าขาดทุนอย่างแน่นอน
**แพร่เตรียมพร้อมรับมวลน้ำก้อนใหญ่
ส่วนที่ จ.แพร่ ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สถานีอุทกบ้านน้ำโค้ง อ.เมือง จ.แพร่ พบว่า ปริมาณน้ำไหลผ่าน เมื่อเวลา 21.00 น. มีระดับ 8.20 เมตร และไหลล้นตลิ่งท่วมในบางพิ้นที่ที่อยู่ริมน้ำยม ทำให้ทหารจากค่าย ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย ระดมกำลังเข้าช่วยชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง
โดยนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อม น.ส.นพมาศ อินทร์จันทร์ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลเมืองแพร่ ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองแพร่ ในการเตรียมพร้อมกับระดับน้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้น และรอรับน้ำตากเหนือที่ผ่านฝายแม่ยม อ.สอง ที่จะเดินทาง 24 ชั่วโมง มาถึง อ.เมืองแพร่ ขณะที่เทศบาลเมืองแพร่ ได้ใช้เครื่องสูบน้ำ ที่สถานีที่ 1 สูบระบายน้ำ แก้ไขน้ำผุดขึ้นที่บริเวณ ร.ร.ป่าไม้ และลดลงแล้ว
ขณะที่นายอภิชาติ โตดิบกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการไป 8 อำเภอของแพร่ พื้นที่ที่จะมีน้ำท่วมประชาชนต้องรู้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ข้าราชการต้องอุทิศตน เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าทรัพย์สินต้องไม่เสียหาย ประชาชนต้องช่วยราชการคู่กัน ทำงานร่วมกันถึงผ่านภาวะวิกฤติได้
**พรหมพิราม-บางระกำเตรียมรับมือ
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ได้แจ้งเตือนชาวบ้านใน 3 อำเภอของ จ.พิษณุโลก ให้เตรียมพร้อมรับมือแม่น้ำยมล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ทุ่งนาบ้านเรือนประชาชนได้แก่ ต.หนองแขม ต.วังวน ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เนื่องจากขณะนี้แม่น้ำยมอยู่ในระดับวิกฤต เนื่องจากขณะนี้ในเขต อ.เมืองสุโขทัย เริ่มมีน้ำยมล้นตลิ่งบางจุดโดยเฉพาะ ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งน้ำขณะนี้เป็นน้ำฝนที่ตกในบริเวณ จ.สุโขทัย แต่ยังมีน้ำจาก จ.แพร่อีกก้อนหนึ่ง จำนวนมากพอสมควรไหลผ่านจาก อ.วังชิ้น ในอัตรา 1,000 กว่า ลบ.ม.ต่อวินาทีที่จะไหลมาถึงใน 3 วันนี้
นายบรรดิษฐ์ กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมตัวเมืองสุโขทัยชลประทานสุโขทัย ชลประทานพิษณุโลก ได้บริหารจัดการน้ำโดยการผันน้ำจากแม่น้ำยม ที่ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทน์ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ให้ออกมาทางคลองหกบาท ในอัตรา 250 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อควบคุมแม่น้ำยมที่จะไหลลงสู่ตัวเมืองสุโขทัยไม่ให้เกิน 600 ลบ.ม.ต่อวินาที
ส่วนหนึ่งจะไหลผ่านคลองสวรรคโลก-พิชัย ลงสู่แม่น้ำน่านที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และอีกส่วนหนึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม หรือคลองบางแก้ว จะผ่านเขต ต.หนองแขม ต.วังวน ต.ท่าช้างอ.พรหมพิราม และ ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ไปสู่คลองบางแก้วผ่านต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ปริมาณน้ำส่วนนี้จะล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่นา ที่ปัจจุบันเก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้ว โดยคาดว่าปริมาณน้ำจากแม่น้ำยมจะล้นตลิ่งใน จ.พิษณุโลกในช่วงวันที่ 6-7 ก.ย.นี้ ขณะนี้ชลประทานพิษณุโลกได้ประสานการแจ้งเตือนกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้รับมือแล้ว
**ชาวโผงเผงเร่งยาเรือ-ขนของหนีน้ำ
ส่วนชาวบ้านใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่อาศัยอยู่ริมคลองบางโผงเผง คลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยาได้เร่งยาเรือ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการน้ำล้นตลิ่งจะได้มีเรือไว้พายใช้งานพร้อม เก็บสิ่งของและทรัพย์สินขึ้นไปไว้บนชั้นสองของตัวบ้าน หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยชาวบ้านบอกว่าต้องทยอยเร่งเก็บของโดยพื้นที่ ต.โผงเผง เป็นพื้นที่ที่ต่ำที่สุดของ จ.อ่างทอง
ด้านเจ้าหน้าที่ ปภ.อ่างทองได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูง เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำอาจจะได้รับผลกระทบ จึงขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
**ชาวกรุงเก่าริมเจ้าพระยาเตรียมพร้อม
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้า ปภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า ขณะนี้สำนักชลประทานที่ 12 ได้เริ่มระบายน้ำเพิ่มขึ้นตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 ก.ย.จากวันละ 631 ลูกบาศก์ต่อวินาที เพิ่มถึง 1,500-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต จ.พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นจากภาวะปกติอีก 1 เมตร ขอให้ผู้ที่อยู่ริมน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางบาล ผักไห่ เสนา บางไทร บางปะอิน และ อ.พระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมยกของขึ้นในที่สูง พร้อมเฝ้าระวังและฟังประกาศของทางราชการอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันที่วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานสำคัญและอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้ได้เตรียมการยกบังเกอร์คอนกรีตขึ้นบางส่วนแล้ว โดยรอดูสถานการณ์น้ำถ้าปริมาณน้ำยังขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง สามารถยกขึ้นได้ทันที ซึ่งตอนนี้ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งถึง 2 เมตร
**อุตุฯเดือน 5-7 ก.ย.เหนือ-อีสานฝนตกเพิ่มขึ้น
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ และนครราชสีมา ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-7 ก.ย.ร่องมรสุมจะยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร