ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภาค 4 สนธิกำลังตำรวจร้อยเอ็ด รวบ 1 ในหัวหน้าแก๊งชนแล้วตบทรัพย์ จ.ร้อยเอ็ด รอบ 3 ปี ทำมาแล้ว 50 ครั้ง รีดเงินจากเหยื่อกว่า 5,000 บาทต่อครั้ง เป้าหมายรถเก่าหมดประกัน เผยล่าสุด เปิดอู่ซ่อมบังหน้าใน จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่เตรียมล้างบาง หลังพบข้อมูลเฉพาะ อ.จังหาร มีถึง 5 แก๊ง สมาชิก 44 ราย
จากกรณีมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด สมาชิกส่วนหนึ่งในหมู่บ้านยึดอาชีพตระเวนขับรถยนต์ สร้างสถานการณ์ให้รถตัวเองถูกเฉี่ยวชน จากนั้นจะเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีหลายพันบาท จนถึงหลักหมื่นบาท หากคู่กรณีไม่ยอมจ่าย หรือจะขอไปเคลียร์ที่สถานีตำรวจ จะข่มขู่ด้วยวิธีต่างๆ นานาจนคู่กรณีต้องยอมจ่ายเงิน
ล่าสุด ช่วงสายของวันนี้ (3 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 มีการนำตัวนายอัครเดช หรือโหน่ง เดชอุทัย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 9 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นระดับหน้ากลุ่มชนแล้วตบทรัพย์มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2556 นายอัครเดช ใช้รถยนต์เชฟโรเลต สีทอง เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้เสียหายแล้วข่มขู่เรียกค่าเสียหาย 5,000 บาท นัดตกลงจ่ายค่าเสียหายให้ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยคนหนึ่งซึ่งเคยประสบเหตุดังกล่าวด้วยตัวเองเดินเข้าไปสอบถาม
ทันทีที่ นายอัครเดช เห็นก็รีบขับหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง และศาลจังหวัดร้อยเอ็ดออกหมายจับ ที่ 266/2557 ลงวันที่ 26 ส.ค. 2557 ข้อหากรรโชกทรัพย์ ในที่สุด นายอัครเดช ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านบึงโดน อ.จังหาร
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า นายอัครเดช ตระเวนก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำมาแล้ว 3 ปี รวม 40 ครั้ง ก่อเหตุวันละ 3-4 ครั้ง เริ่มจากการไปรับจ้างนั่งข้างคนขับร่วมก่อเหตุ ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท ต่อมา ได้แยกออกมาเช่ารถยนต์ตระเวนก่อเหตุร่วมกับ นายทวี แน่นอุดร โดยเงินที่ได้ขั้นต่ำ 2,000-10,000 บาท จะนำไปดื่มสุรา เที่ยวเตร่ เล่นการพนัน
พล.ต.ท.เดชณรงค์ กล่าวว่า นายอัครเดช ร่วมกับ นายทวี แน่นอุดร ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ออกตระเวนขับรถยนต์ชนคู่กรณี โดยใช้รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กง 2747 กาฬสินธุ์ รถยนต์เชฟโรเลต สีทอง ทะเบียน กง 8099 กาฬสินธุ์ และรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ลงมือก่อเหตุ โดยจะก่อนเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณมลฑล เนื่องจากผู้เสียหายไม่อยากเสียเวลา จึงจ่ายเงินให้แก่มิจฉาชีพกลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังมีที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด สกลนคร สระบุรี ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายหลัก
ล่าสุด มีกลุ่มเครือญาติของนายอัครเดช ได้ใช้ จ.อุดรธานี ตั้งแก๊งชนแล้วตบทรัพย์ โดยเปิดอู่ซ่อมรถบังหน้า และใช้เป็นสถานทีเรียกค่าซ่อมที่แพง กรณีที่ผู้เสียหายต้องการซ่อมรถ ขณะนี้ได้ให้ตำรวจลงพื้นที่หาข่าว และเตรียมเข้าจับกุมแล้ว
สำหรับกลุ่มมิจฉาชีพขับเฉี่ยวชนแล้วตบทรัพย์ใน อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ขณะนี้มี 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มของนายวี สมาชิก 12 คน ใช้รถยนต์ก่อเหตุ 6 คัน กลุ่มของนายตุ่น มีสมาชิก 20 คน รถยนต์ใช้ก่อเหตุ 10 คัน กลุ่มนายชวน สมาชิก 6 คนรถยนต์ใช้ก่อเหตุ 3 คัน กลุ่มนางใจ มีสมาชิก 4 คน รถยนต์ใช้ก่อเหตุ 2 คัน และกลุ่มนายอัครเดช หรือโหน่ง มีนายทวี ร่วมกันก่อเหตุ ใช้รถยนต์ 3 คัน
โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหาจะวางกลอุบายแต่งเรื่อง เลือกใช้วิธีการข่มขู่ผู้เสียหาย โดยเน้นเหยื่อที่เป็นชายสูงอายุ ขับรถช้า และเป็นรถเก่า ไม่มีประกัน จะไม่เลือกสตรีที่มาคนเดียว เพราะตกใจง่าย อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ และจะม่ทำกับวัยรุ่น เพราะมักจะต่อสู้ และมีอาวุธ โดยจะมีรถ 2-3 คันเข้าประกบ และขับเข้าประชิดด้านหลัง เพื่อให้เหยื่อตกใจ หักหลบมาใส่รถด้านข้าง และจะรีบเร่งเครื่องขึ้นมาเพื่อให้เกิดการเฉี่ยวชน หลังจากนั้นจะลงไปกรรโชกทรัพย์ครั้งละ 5,000-10,000 บาท โดยจะก่อเหตุวันละ 3 ครั้ง