อุบลราชธานี-ผู้ต้องกักขังชาวบังกลาเทศ 70 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ด่านอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี รอการผลักดันกลับประเทศโวยวาย ต้องการให้ทางการไทยรีบส่งตัวกลับบ้าน เพราะถูกคุมตัวมาเป็นเวลานาน ต่อมา ล่ามชี้แจงอยู่ระหว่างส่งหนังสือแจ้งให้ จนท.ทูตบังกลาเทศมารับตัวกลับในเร็วๆ นี้ ทำให้พอใจยอมสงบเสียง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (1 ก.ย.) พ.ต.ต.พลสันต์ คมขาว ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 226 ประจำอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้รับการขอกำลังสนับสนุนจากด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำอำเภอพิบูลมังสาหาร ให้ดูแลความเรียบร้อยในเรือนควบคุมผู้ต้องกักขังรอการผลักดันกลับประเทศ เนื่องจากชาวบังกลาเทศ จำนวน 70 คน ที่ถูกส่งตัวมาควบคุมก่อเหตุวุ่นวายเขย่าประตูลูกกรงห้องขังส่งเสียงดัง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อ นายชาญชัย ปาทาน โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกลางอุบลราชธานี นำล่ามแปลภาษาบังกลาเทศชื่อ นายญา ซิน เข้าพูดคุยสอบถามจากตัวแทนผู้ต้องขัง คือ นายมูฮัมหมัด เดีย อายุ 26 ปี นายมูฮัมหมัด ทูเซน อายุ 20 ปี และนายนาซี อุดิน อายุ 20 ปี ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางจากประเทศบังกลาเทศเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกันนี้
ทั้งนี้ เพื่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่านายหน้าให้แก่ผู้นำทางชาวบังกลาเทศ และชาวไทยคนละ 70,000-80,000 บาท
แต่หลังเดินทางมากับเรือนานกว่า 1 สัปดาห์ ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ในประเทศไทยที่ อ.เมือง จ.ระนอง และถูกเจ้าหน้าที่ไทยเข้าจับกุมนำตัวมาคุมขังที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสะเดา จ.สงขลา ต่อมา ศาลจังหวัดนาทวีพิพากษาจำคุกคนทั้งหมดข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต 6 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี
ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสะเดา มีที่คุมขังไม่เพียงพอ จึงส่งตัวชาวบังกลาเทศทั้ง 70 คน มาควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอพิบูลมังสาหาร ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อรอการผลักดันกลับประเทศ แต่ชาวบังกลาเทศที่ถูกควบคุมตัวยังไม่เห็นความคืบหน้า จึงไม่พอใจและต้องการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูตของตนเอง เพื่อให้มารับตัวกลับบ้าน หรือหาที่ทำงานให้แก่ชาวบังกลาเทศที่ถูกกักขังทั้งหมดในประเทศที่สาม
หลังการเจรจาเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสาร และประสานสถานทูตบังกลาเทศให้มารับตัวคนทั้งหมดกลับประเทศ
ส่วนจะได้เดินทางกลับประเทศ หรือจะได้ไปทำงานที่ไหนต่อหรือไม่ ผู้ต้องกักขังต้องพูดคุยกับทางสถานทูตของตนเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่สามารถดำเนินการอะไรให้ได้ ซึ่งผู้ต้องขังทั้งหมดเข้าใจ จึงยอมสงบท่าที และรอการติดต่อจากสถานทูตบังกลาเทศในที่สุด
