ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เชียงใหม่ ซู อควาเรียม” ครวญขาดทุน 1-2 ล้านทุกเดือน ยอดสะสมกว่า 60 ล้าน ชี้ความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลกระทบยาว รับสภาพโอกาสคืนทุนริบหรี่ แต่พร้อมดิ้นสู้เต็มที่แม้ไร้การเยียวยา ทุ่มอีก 10 ล้านปรับปรุงระบบไฟฟ้า หวังช่วยลดค่าใช้จ่ายเดือนละ 3 แสนบาท ยังดันไม่ไหวอาจต้องให้องค์การสวนสัตว์รับช่วงต่อ เผยมีทัวร์จีนขอราคาพิเศษ รับประกันนำนักเที่ยวเข้าชมอย่างต่ำเดือนละ 3,000 คน
นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้บริหารเชียงใหม่ ซู อควาเรียม สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด และน้ำเค็มยาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้เชียงใหม่ ซู อควาเรียม กำลังปรับภูมิทัศน์ภายในส่วนจัดแสดง พร้อมย้ายสลับสัตว์น้ำระหว่างส่วนจัดแสดงน้ำจืดกับน้ำเค็มประมาณ 20,000 ตัว ปรับปรุงระบบไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อประหยัดพลังงานลงประมาณ 30% หรือเดือนละประมาณ 300,000 บาท ซึ่งจะใช้เวลา 8-12 เดือน เงินลงทุนเพิ่มกว่า 10 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงส่วนจัดแสดงให้มีความแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น หลังจากเปิดมาตั้งแต่ปลายปี 2551 รวมทั้งรับการเปิดตลาดท่องเที่ยวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ขาดทุนต่อเนื่อง แต่ประเมินแล้วการลงทุนน่าจะส่งผลดีกว่าในระยะยาว เพราะค่าไฟฟ้าปัจจุบันอยู่ที่เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียงส่วนเดียวที่ประหยัดได้ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นอีก 3-4 ล้านบาท ทั้งอาหารสัตว์น้ำ และเงินเดือน ค่าจ้าง ไม่สามารถลดลงได้มากกว่านี้แล้ว
นายนฤทัตกล่าวถึงผลดำเนินการของเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ตั้งแต่ที่เปิดจนถึงเวลานี้ มียอดขาดทุนสะสมกว่า 60 ล้านบาท เฉลี่ยขาดทุนเดือนละ 1-2 ล้านบาท ยังไม่รวมเงินลงทุนตั้งแต่แรกอีกกว่า 500 ล้านบาท ที่ยังไม่คืนทุนแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากปัญหาบ้านเมืองและเศรษฐกิจช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงวิกฤตการเมืองปี 2553 ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติใช้บริการลดน้อยลงมาก
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีความพยายามร้องขอความช่วยเหลือเยียวยาไปยังคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นพันธมิตรกัน เพราะเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ลงทุนตามการเชิญขององค์การสวนสัตว์ฯ และมีประโยชน์ร่วมกัน โดยขอลดส่วนแบ่งจากราคาบัตร ที่ต้องจ่ายให้องค์การสวนสัตว์ฯ แต่กลับไม่เคยได้รับความสนใจและตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะเคยรับพิจารณาเรื่องนี้ และมีความเห็นสมควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาแล้วก็ตาม
“ขณะนี้มีบริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน เจรจาที่จะทำข้อตกลงในการนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ ซู อควาเรียม เดือนละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน โดยขอส่วนลดราคาเข้าชมเพื่อจะได้ไปทำการตลาดได้ ซึ่งเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ไม่มีปัญหา เพราะเป็นโอกาสที่ดี แต่ต้องขอความเห็นชอบจากองค์การสวนสัตว์ฯ ซึ่งหากเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ก็น่าจะทำข้อตกลงได้”
นายนฤทัตกล่าวว่า แม้จะมีปัญหาและอุปสรรค ยังขาดทุนสะสมต่อเนื่อง ไม่สามารถดำเนินการให้คุ้มค่ากับการลงทุนตามแผนได้ แต่ยังคงมีความมุ่งมั่นจะผลักดันให้สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนกว่าจะไม่สามารถแบกรับภาระขาดทุนต่อไปได้ ซึ่งคงต้องพิจารณายุติการบริหาร แล้วให้องค์การสวนสัตว์ฯ เข้ามาบริหารจัดการเองในระยะเวลาสัญญาที่เหลือ
