บุรีรัมย์ - ฝนตกสะสมน้ำไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลสตึกซ้ำอีกรอบก่อนทะลักเข้าอาคารเรียน โรงอาหาร ห้องสหกรณ์ บ้านพักครูจมกว่า 50 ซม. เบื้องต้นมีโต๊ะ เก้าอี้ สื่อการเรียน เอกสารวิชาการเสียหาย ขณะบ้านจัดสรรถูกน้ำทะลักเข้าท่วมกลางดึกจมบาดาลกว่า 100 หลัง ขนย้ายข้าวของหนีไม่ทันเสียหายยับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ส.ค.) จากฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ประกอบกับน้ำฝนที่สะสมอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ พบว่า น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาล ประชาอนุสรณ์ ในเขตเทศบาลตำบลสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซ้ำอีกระลอก ทำให้อาคารอนุบาลปฐมวัย 4 ห้องเรียนถูกน้ำทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่งผลให้อุปกรณ์และสื่อการเรียน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ตู้เก็บเอกสาร ที่นอนเด็ก และเอกสารทางวิชาการจมน้ำเสียหาย
นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมโรงอาหาร ห้องสหกรณ์ และบ้านพักครูอีกจำนวน 5 หลัง จนครูไม่สามารถเข้าไปพักอาศัยภายในบ้านได้
ทั้งนี้ยังสร้างความเดือดร้อนให้ครู และเด็กนักเรียน ต้องไปใช้อาคารมัธยมเป็นที่รับประทานอาหารชั่วคราวด้วย เนื่องจากโรงอาหารไม่สามารถใช้การได้
จากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าว เบื้องต้นนายสมพร บุ้งทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสตึก ก็ได้พิจารณาสั่งปิดทำการเรียนการสอนนักเรียนชั้นอนุบาลที่ถูกน้ำท่วม 1 วัน ส่วนระดับชั้นประถมและมัธยมที่ไม่ถูกน้ำท่วมก็ยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลายก็อาจจะพิจารณาปิดเรียนเพิ่มอีก
นายสมพร บุ้งทอง ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ได้ทำการสำรวจอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย เพื่อรายงานให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา บุรีรัมย์ เขต 4 ได้รับทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการจัดหางบประมาณมาทำการซ่อมแซมให้สามารถใช้ทำการเรียนการสอนต่อไป
ในเบื้องต้นทางเทศบาลฯ ก็ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กมาทำการสูบน้ำออกจากอาคารเรียนและห้องเรียนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกหรือน้ำไหลมาสมทบเพิ่มอีกระดับน้ำก็จะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
นอกจากนั้นน้ำยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านจัดสรร “ประชาจัดสรร” ตั้งอยู่ ม.16 บ.ประชาบูรณะ ถนนสตึก-โนนจำปา ต.สตึก อ.สตึก อย่างรวดเร็วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวจมน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร
จากน้ำที่ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วทำให้ประชาชนขนย้ายข้าวของไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จมน้ำเสียหาย
นายสมัย จันทร์พลงาม อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว บอกว่า น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมในหมู่บ้านอย่างรวดเร็วและเป็นช่วงกลางดึก จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ขนย้ายข้าวของหนีขึ้นที่สูงไม่ทันทำให้จมน้ำเสียหาย
จึงอยากให้ทางเทศบาลฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางสูบน้ำออก ให้ระดับน้ำลดลงโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้น้ำท่วมขังหลายวันจะทำให้ข้าวของเสียหายมากกว่านี้