นครพนม - ครูสาวกำพร้าชาว อ.อาจสามารถร้องสื่อทั้งน้ำตา ทุกข์หนักบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานในท้องถิ่น อ้างไม่ได้เกิดจากเหตุธรรมชาติ ไม่มีงบช่วย
วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ว่า มีครูสาวสอนชั้นอนุบาลคนหนึ่ง บ้านถูกเพลิงไหม้จนวอดทั้งหลัง แต่ไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือ ขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย
หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุ เลขที่ 54 บ้านคำเกิ้ม หมู่ 8 ต.อาจสามารถ ห่างจากโบสถ์คริสต์คำเกิ้มประมาณ 70 เมตร พบซากบ้านไม้ชั้นเดียวติดพื้น 4 ห้องถูกเพลิงเผาผลาญจนหมด หน้าบ้านพบกองสังกะสีและเศษไม้กองทับถมกัน ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าถูกเพลิงโหมไหม้ดำเป็นตอตะโก
โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ น.ส.ปริชาติ เจริญวัฒนกุล อายุ 34 ปี ครูอัตราจ้างสอนนักเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนเทศบาล 1 ต.หนองแสง อ.เมือง
น.ส.ปริชาติกล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 17.00 น. ขณะน้องชาย คือ นายสมจิต แก้วอำค่า อายุ 29 ปี พักอยู่บ้านคนเดียว มีญาติคือนางนาวี เทพกรรณ์ อายุ 55 ปี ใช้น้องตนให้ไปตามบุตรชาย คือ นายพิชิต เทพกรรณ์ อายุ 24 ปี ซึ่งดื่มสุราอยู่กลางหมู่บ้านให้กลับบ้าน เพราะเกรงว่าเมื่อเมาแล้วอาจจะก่อเหตุจะอาละวาด
ขณะที่นายสมจิตไปตามนายพิชิต ซึ่งเคยคลุ้มคลั่งอาละวาด และอยู่ระหว่างบำบัดยาเสพติด แต่นายพิชิตไม่ยอมกลับ และโกรธน้องชายตน จากนั้นเดินกลับบ้านไปหิ้วเอาน้ำมันมาเทราดบ้านตนพร้อมจุดไฟแช็กเผา เพื่อนบ้านที่ประสบเหตุช่วยกันนำน้ำสาดระงับเพลิง ขณะที่รถดับเพลิงเทศบาลเมืองนครพนมมาถึงที่เกิดเหตุ เพลิงได้เผาบ้านจนวอดหมดแล้ว
หลังเกิดเหตุตำรวจไม่สามารถดำเนินคดีต่อนายพิชิตได้เนื่องจากเป็นคนสติไม่ดี เพราะพบว่าเข้า-ออกโรงพยาบาลจิตเวชบ่อยครั้ง ซึ่งก็ยืนยันไม่เอาเรื่องเพราะเป็นญาติกัน แต่ติดใจที่หน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่ไม่เคยมาช่วยเหลือดูแลความเดือดร้อนเบื้องต้นตามหลักมนุษยธรรมเลย
“น้ำปลาขวดเดียวหรือข้าวสาร 1 ถุงก็ไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ ไปสอบถามกับปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลอาจสามารถ ก็ได้รับคำตอบอ้างว่าไม่ใช่เหตุธรรมชาติ จึงไม่เข้าข่ายจัดสรรคงบช่วยเหลือ”
น.ส.ปริชาติกล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนครูในโรงเรียนเระดมเงินกันได้ประมาณ 10,000 บาทช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งตนซาบซึ้งในน้ำใจดีมาก ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เคยมาสอบถามความเป็นอยู่หลังสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งคงต้องก้มหน้าเลี้ยงดูบุตร 1 คนต่อไป ตอนนี้น้อยใจในโชคชะตามาก เพราะกำพร้าบิดา-มารดามาตั้งแต่เด็ก มีปัญหาเดือดร้อนก็ไร้การเหลียวแล