ร้อยเอ็ด - พ่อเมืองนำชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน อ.จังหาร ร่วมดื่มน้ำมนต์สาบานตนเลิกพฤติกรรมชนตบทรัพย์ ขณะที่ชาวบ้านที่ไม่มีส่วนรู้เห็นโวยสื่อมวลชนนำเสนอเหมารวมทั้งหมู่บ้าน ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียหาย ทั้งที่จริงมีแค่ 44 คน วอนแก้ข่าวให้ถูกต้อง
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่วัดวารีอุดม ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานพิธีทำบุญหมู่บ้าน ปฏิญาณตนเป็นคนดีของสังคม สืบเนื่องจากการกวาดล้างขบวนการหมู่บ้านชนแล้วตบทรัพย์ ตามแผนปฏิบัติการกวาดบ้าน ล้างเมือง 101 โดยนิมนต์พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์เทศน์ให้ประชาชน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านบึงโดน หมู่ 5 หมู่ 7 และบ้านแสนชาติ หมู่ 4 ซึ่งตกเป็นข่าวว่า มีชาวบ้าน 44 รายออกไปทำอาชีพผิดกฎหมายด้วยการขับรถไปก่อเหตุเฉี่ยวชนและตบทรัพย์ ตกเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ร่วมกันประกอบพิธีปฏิญาณสาบานตนจะเลิกพฤติกรรมดังกล่าวโดยเด็ดขาด ห่างไกลอบายมุข และเลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด พร้อมร่วมกันตรากฎมณเฑียรบาลของหมู่บ้าน 5 ข้อ ขึ้นมาเป็นระเบียบถือปฏิบัติพร้อมกันทุกคน มีประชาชนมาร่วมพิธีประมาณ 400 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่มีพฤติกรรมดังกล่าวมาร่วมสาบานตนด้วย
หลังจากผู้เปิดงานมอบนโยบาย และกฎระเบียบที่ชาวบ้านตราขึ้นเสร็จสิ้น นายชัยวัฒน์ มงคลชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 5 บ้านบึงโดน ต.แสนชาติ ตะโกนขึ้นต่อหน้า ผวจ.ร้อยเอ็ด และชาวบ้านว่าขอความเป็นธรรมด้านการเสนอข่าวของสื่อมวลชนด้วย เนื่องจากเสนอข่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง ว่า บ้านบึงทั้งหมู่บ้านมีพฤติกรรมชนตบทรัพย์ สร้างความเสียหายแก่ชาวบ้านกว่า 500 คน ที่ไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับผู้ทำผิด ขอให้สื่อมวลชนแก้ข่าวให้ชาวบ้านที่บริสุทธิ์ด้วย
ขณะที่ ดร.สมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่โทษสื่อมวลชน เพราะแม้กระทั่งจังหวัดก็เสียหายไปด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แม้จะเพียงบางส่วนแต่ก็เสียหาย จึงขอให้คนที่ทำเลิกพฤติกรรมดังกล่าว โดยขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวออกไปสู่สาธารณะว่า จากนี้ไปจะไม่มีพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ส่วนคนที่ทำผิดและมีเจ้าทุกข์ก็ขอให้รับกรรมที่ก่อขึ้นตามกฎหมาย ส่วนที่ไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความขอให้ข้อยุติเลิกพฤติกรรมโดยเด็ดขาด
ด้าน พ.ต.อ.สิงห์ทอง พลลา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีเพียง 1 ราย ออกหมายจับไปแล้ว ส่วนคดีนอกพื้นที่มีอีก 1 รายที่ จ.ปราจีนบุรี แจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ ซึ่งสามารถตกลงยอมความกันได้ ยกเว้นการแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ที่ยอมความไม่ได้
ส่วนรูปภาพของผู้ก่อเหตุในแฟ้มประวัติที่บันทึกหลักฐานไว้ ขณะนี้สามารถตรวจสอบได้ที่ ภ.จว.ร้อยเอ็ด และที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น และ 11 จังหวัดของภาคอีสาน ส่วนจังหวัดอื่นสามารถให้ท้องที่นั้นประสานขอภาพถ่ายไปตรวจสอบได้เช่นเดียวกัน
