สุรินทร์ - ชาวบ้านเมืองช้างลุกฮือรวมตัวไล่บี้ “เจ้าอาวาส” เจ้าปัญหาออกจากวัด ระบุใช้จ่ายเงินวัดไม่โปร่งใส มีปัญหาสร้างเมรุไม่แล้วเสร็จ เลือกรับกิจนิมนต์เฉพาะคนรวย พร้อมร่วมกันลงมติให้ออกไปจากวัด ขณะหลวงพ่อดิ้นชี้แจงพร้อมนำเอกสารมาแสดง สุดท้ายได้ข้อสรุปให้ กก.กลางและหน่วยงานราชการตรวจสอบและชี้ขาด ท่ามกลางกำลัง ตร.คุมเข้ม
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดแจรนสัมพันธ์ บ้านแจรน ม.5 ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้านกว่า 100 คนได้มารวมตัวกันเรียกร้องให้ พระครูสุระจิต โสภณ เจ้าอาวาสวัดแจรนสัมพันธ์ และเจ้าคณะตำบลตาอ็อง ชี้แจงเรื่องการใช้จ่ายเงินของวัดไม่โปร่งใส การแต่งตั้งคนจากหมู่บ้านอื่นมาเป็นกรรมการวัด การรับกิจนิมนต์เฉพาะคนรวยมีฐานะดี การพูดจาไม่ดีกับชาวบ้าน และการก่อสร้างเมรุที่มีปัญหาไม่แล้วเสร็จ โดยมีนางศรีนวล กองเงิน ผู้ใหญ่บ้านแจรน เป็นตัวแทนชาวบ้าน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์ มาดูแลความสงบเรียบร้อย
นางแตน ส่งกลิ่น อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 ม.5 บ้านแจรน บอกว่า เจ้าอาวาสไม่ค่อยรับกิจนิมนต์ชาวบ้าน เลือกรับเฉพาะคนที่มีฐานะดี คนที่ไม่มีเงินมานิมนต์จะอ้างติดธุระตลอด แต่แปลกได้รับยศตลอด บางทีปีละ 2 ครั้งก็มี ไม่รู้ได้มาจากไหน มีแต่คนใหญ่คนโตมาหา ตอนนี้ชาวบ้านต้องการให้หลวงพ่อออกจากวัดไป หากอยู่วัดต่อไปจะมีปัญหากับชาวบ้านไม่รู้จักจบสิ้น และชาวบ้านไม่เข้าวัดทำบุญเหมือนที่ผ่านมา
นางละเอียด สาคร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.5 บ้านแจรน บอกว่า เมื่อชาวบ้านมานิมนต์ หลวงพ่อจะถามว่าใครเป็นประธาน หากมีพระมาจากที่อื่นร่วมด้วยหลวงพ่อจะไม่รับนิมนต์เพราะต้องการเป็นประธานเอง และพอมีพระวัดอื่นมารับกิจนิมนต์ในหมู่บ้าน หลวงพ่อจะไม่พอใจ บอกว่ามีพระที่อื่นมาหากินในเขตของหลวงพ่อ
ทางด้าน พระครูสุระจิต โสภณ เจ้าอาวาสวัดแจรนสัมพันธ์ ได้พยายามชี้แจงในแต่ละเรื่องที่ชาวบ้านไม่พอใจพร้อมนำเอกสารต่างๆ รวมถึงใบเสร็จการซื้อของมาให้ดู ขณะที่ชาวบ้านไม่ค่อยสนใจการชี้แจง และต้องการให้หลวงพ่อออกจากวัดไปท่าเดียวเนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งมานานแล้ว จนเกือบเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ต่อมาจึงเสนอให้ชาวบ้านลงมติโดยการยกมือว่าจะให้เจ้าอาวาสอยู่ หรือให้ออกไปจากวัด ปรากฏว่าชาวบ้านยกมือต้องการให้เจ้าอาวาสออกจากวัดไปอยู่ที่อื่น มีเพียง 2-3 คนที่ต้องการให้อยู่ต่อ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าให้คณะกรรมการกลางเป็นผู้ตรวจสอบชี้ขาด ก่อนที่ชาวบ้านจะพากันแยกย้ายกลับบ้าน
พระครูสุระจิตยังบอกอีกว่า พร้อมที่จะให้ตรวจสอบในทุกเรื่อง และให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของทางราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป