“ช้างป่ากุยบุรี” ถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต

ประจวบคีรีขันธ์ - “พลายสีดอ” ช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ใช้งวงจับลวดที่เจ้าของสวนล้อมไว้รอบไร่เพื่อป้องกันช้างเข้าไปกินมะม่วง ถูกไฟฟ้าช็อตล้มเสียชีวิต

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ส.ค.) นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอสามร้อยยอด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบช้างตายที่สวนมะม่วงบริเวณหุบตะเคียนยักษ์ บ้านหนองเป่าปี่ หมู่ที่ 3 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสาน พ.ท.อานนท์ เพชรคำ นายทหารแผนกกิจการพลเรือน ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ พนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ปศุสัตว์อำเภอสามร้อยยอด และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นสวนมะม่วง พบช้างพลายสีดอ อายุประมาณ 10-15 ปี น้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน มีงายาวประมาณ 1 ฟุต ล้มเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วงติดกับถนนโดยหันหน้าออก

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บริเวณปลายงวงของช้างม้วนพันสายลวด และมีเลือดไหลออกมา และบริเวณใต้งวงตรงกลางพบมีรอยแผลไหม้เหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ตรวจตามลำตัวไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบเส้นลวดเปลือย 2 เส้น โยงกับเสาไม้ปักไว้รอบๆ สวนมะม่วงใกล้เคียงกับจุดที่ช้างล้ม เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ เพื่อป้องกันช้างป่าเข้าไปทำลายพืชพันธุ์ที่เพาะปลูกเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และทราบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายสุพัฒน์ สัมฤทธิ์จินตนา อายุ 66 ปี โดยว่าจ้างให้นายปลิง ยังไม่ทราบนามสกุล และอายุ เป็นคนเฝ้าสวน แต่ในระหว่างนั้นนายปลิง ไม่อยู่

จากการเข้าตรวจสอบที่บ้านพักคนงานเจ้าหน้าที่พบเครื่องปั่นไฟยี่ห้อคูโบต้าต่อพ่วงกับไดนาโมตัวผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 250 โวลต์ แต่ไม่พบมีตัวตัดไฟ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบว่า ช้างป่าโขลงนี้มีอยู่ประมาณ 6-8 ตัว มักจะเดินลงมาจากป่าพื้นที่บริเวณหุบตะเคียงยักษ์ เพื่อหากินผลไม้ป่า หรือมะม่วงบริเวณบริเวณสวนของชาวบ้านใกล้เคียง บางครั้งก็เหยียบย่ำทำความเสียหายให้แก่พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน จึงมีการวางรั้วลวดปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกัน ทำให้ช้างที่โดนช็อต แต่คาดว่าไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาอาจจะไม่มีการตัด ซึ่งเมื่อช้างมาถูกทำให้ช้างถูกไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิต

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ จากที่เกิดเหตุ และสอบพยานแวดล้อมไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าของสวน ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 4 ปี และปรับ หรือทั้งจำและปรับต่อไป