บุรีรัมย์ - ศพเหยื่อตึกยูเพลสถล่ม ที่ปทุมธานี 5 ราย ถูกส่งกลับบ้านเกิดที่บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง ขณะหน่วยงานในสังกัด ก.แรงงาน รุดมอบเงินค่าจัดการศพ พร้อมประสานให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ด้านญาติวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการศึกษาบุตรเหยื่อ เพราะบางรายเสียชีวิตทั้งพ่อแม่
วันนี้ (15 ส.ค.) นางศุภนา คุ้มวงศ์ดี แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย น.ส.เรวดี เชยกลิ่น ประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ นายสุวิช โชติจำรัส ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด และนายชนาถ ชัชวาลวงศ์ นายอำเภอนางรอง ได้เดินทางไปเยี่ยม และมอบเงินค่าจัดการศพให้แก่ครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิต จากเหตุโศกนาฏกรรมอาคารคอนโดมิเนียม 6 ชั้น หรือ “ตึกยูเพลส” ที่กำลังก่อสร้าง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถล่มทับคนงานเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย
ในจำนวนแรงงานที่เสียชีวิตมีภูมิลำเนาอยู่ ที่ จ.บุรีรัมย์ 5 ราย ประกอบด้วย นายธนากรณ์ ตรีเมฆ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.7 บ.คลองไผ่ ต.หนองไทร อ.นางรอง นายเชษฐา กำพูชาติ อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 73 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายสิทธิโชค แกมมะณี อายุ 18 ปี อยู่เลขที่ 67 ม.1 ต.หนองไทร อ.นางรอง นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี อายุ 36 ปี อยู่เลขที่ 10 ม.14 ต.หนองไทร อ.นางรอง และนางเพียบ มงคล อายุ 34 ปี อยู่เลขที่ 6/2 ม.15 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ภรรยาของ นายใกล้รุ้ง ทับครบุรี
ศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ได้ถูกส่งมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (14 ส.ค.) โดยบรรยากาศภายในงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่และญาติ ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย มีกำหนดทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.)
นายชนาถ ชัชวาลวงศ์ นายอำเภอนางรอง กล่าวว่า เบื้องต้นทางอำเภอได้ประสานกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยเหลือดูแลเรื่องงานศพของผู้เสียชีวิตทุกราย พร้อมทั้งประสานกับทางเหล่ากาชาด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอีกหลายภาคส่วนเพื่อดำเนินการช่วยเหลือทั้งด้านความเป็นอยู่ของครอบครัว ด้านการศึกษาของบุตรผู้เสียชีวิต โดยจะติดตามการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ด้าน น.ส.เรวดี เชยกลิ่น ประกันสังคม จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เบื้องต้น ทางกระทรวงแรงงาน ได้มอบเงินค่าจัดการศพให้แก่เหยื่อผู้เสียชีวิตแล้วรายละ 30,000 บาท นอกจากนั้น แรงงานที่เสียชีวิตยังจะได้เงินทดแทนอีกเดือนละ 4,680 บาทเป็นเวลา 8 ปีด้วย และหากผู้เสียหายรายใดต้องการจะฟ้องร้องดำเนินคดี หรือเรียกค่าเสียหายจากทางบริษัทผู้รับเหม าหรือเจ้าของโครงการ ก็สามารถประสานกับทางอำเภอ หรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำเนินการประสานทนายความเพื่อช่วยในการฟ้องร้องได้
ขณะที่ นางอัญชิสา ครองพลอย ญาติของนายใกล้รุ่ง และนางเพียบ สองสามีภรรยาที่เสียชีวิตจากเหตุตึกยูเพลสถล่ม กล่าวว่า ทั้งสองมีลูกทั้งหมด 5 คน ขณะนี้ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือส่งเสียให้ลูกของผู้เสียชีวิตที่กำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถม และมัธยม ได้เล่าเรียนจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี หรือจนกว่าจะมีงานทำสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะนายใกล้รุ่ง ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวแต่ต้องมาจบชีวิตลงพร้อมกับภรรยา ส่วนปู่ย่า และตายาย มีฐานะยากจน และแก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถทำงานหนักได้ ปัจจุบันมีเพียงเงินเบี้ยยังชีพคนชราเท่านั้น
นายอัญชิสา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนายใกล้รุ่ง ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเพราะเป็นผู้รับเหมาช่วงต่อนั้น ตนอยากให้เป็นกรณีศึกษาซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไม่ได้จ่ายเงินสมทบให้แก่แรงงานที่พาไปทำงาน เนื่องจากไม่ได้จ้างประจำ แต่เป็นลักษณะการชักชวนคนในหมู่บ้านที่ตกงานไปทำงานรับจ้างก่อสร้างเป็นครั้งคราว ตามที่มีผู้มาว่าจ้างเท่านั้น แต่นายใกล้รุ่ง ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดไปแล้ว อยากวิงวอนให้ทางภาครัฐ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัว
