นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเหมืองถล่มในช่วงฤดูฝนซ้ำซากขึ้นอีก จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันเหตุล่วงหน้า 3 ประการ ดังนี้ 1.กำกับดูแลการทำเหมืองหินทั่วประเทศจำนวน 259 แห่งที่มีประทานบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมืองที่มีความเสี่ยงสูง ให้ปฏิบัติตามแผนผังโครงการทำเหมือง มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาตอย่างเคร่งครัด
2.แจ้งผู้ถือประทานบัตรทุกแห่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้หมั่นตรวจสอบหน้าเหมือง โดยเฉพาะบริเวณหน้าเหมืองสูงชัน บริเวณที่มีรอยแตก รอยเลื่อนหรือมีดินแทรก ด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะทำงานในบริเวณดังกล่าว หรือระมัดระวังการทำงานในช่วงฤดูฝนเป็นพิเศษ และ3.แจ้งให้วิศวกรควบคุมเหมืองแร่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ.2543 โดยเคร่งครัด หากตรวจสอบพบว่าไม่ปฏิบัติตาม ให้ประมวลเรื่องส่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
“ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเหมืองหินถล่มในจังหวัดเพชรบุรี เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท เพราะทำเหมืองผิดจากแผนผังโครงการที่กำหนดให้ทำเป็นขั้นบันไดเพื่อรองรับน้ำหนัก และเมื่อฝนตกหนักเกิน 3 วันทำให้ดินอุ้มน้ำไว้มากจึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น หลังจากนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้มีการตรวจสอบเหมืองหินทั่วประเทศทั้ง 259 ราย โดยเจ้าหน้าที่ปูพรมเอ็กซเรย์ทุกเหมือง พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเหมืองแร่ดำเนินการอย่างถูกต้อง มีเพียง 72 รายที่ได้สั่งการให้แก้ไขปรับปรุง และตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 – ปัจจุบันยังไม่พบรายงานอุบัติเหตุใดๆ ซึ่งในช่วงฤดูฝนนี้ ผมได้กำชับให้อุตสาหกรรมจังหวัดและผู้อำนวยการศูนย์ภาคของ กพร.จะต้องกำกับดูแลการทำเหมืองในเชิงเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุหน้าเหมืองพังถล่มอีก” นายวิฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้การทำเหมืองหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงฤดูฝนจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับพื้นที่มีความเสี่ยงสูงมีทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ หมู่เหมืองหินหน้าพระลาน จ.สระบุรี หมู่เหมืองหินเขาเชิงเทียน จ.ชลบุรี หมู่เหมืองหินเขายะลา อ.เมือง จ.ยะลา และหมู่เหมืองหิน อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
2.แจ้งผู้ถือประทานบัตรทุกแห่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้หมั่นตรวจสอบหน้าเหมือง โดยเฉพาะบริเวณหน้าเหมืองสูงชัน บริเวณที่มีรอยแตก รอยเลื่อนหรือมีดินแทรก ด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะทำงานในบริเวณดังกล่าว หรือระมัดระวังการทำงานในช่วงฤดูฝนเป็นพิเศษ และ3.แจ้งให้วิศวกรควบคุมเหมืองแร่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ.2543 โดยเคร่งครัด หากตรวจสอบพบว่าไม่ปฏิบัติตาม ให้ประมวลเรื่องส่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
“ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเหมืองหินถล่มในจังหวัดเพชรบุรี เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท เพราะทำเหมืองผิดจากแผนผังโครงการที่กำหนดให้ทำเป็นขั้นบันไดเพื่อรองรับน้ำหนัก และเมื่อฝนตกหนักเกิน 3 วันทำให้ดินอุ้มน้ำไว้มากจึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น หลังจากนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้มีการตรวจสอบเหมืองหินทั่วประเทศทั้ง 259 ราย โดยเจ้าหน้าที่ปูพรมเอ็กซเรย์ทุกเหมือง พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเหมืองแร่ดำเนินการอย่างถูกต้อง มีเพียง 72 รายที่ได้สั่งการให้แก้ไขปรับปรุง และตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 – ปัจจุบันยังไม่พบรายงานอุบัติเหตุใดๆ ซึ่งในช่วงฤดูฝนนี้ ผมได้กำชับให้อุตสาหกรรมจังหวัดและผู้อำนวยการศูนย์ภาคของ กพร.จะต้องกำกับดูแลการทำเหมืองในเชิงเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุหน้าเหมืองพังถล่มอีก” นายวิฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้การทำเหมืองหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงฤดูฝนจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับพื้นที่มีความเสี่ยงสูงมีทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ หมู่เหมืองหินหน้าพระลาน จ.สระบุรี หมู่เหมืองหินเขาเชิงเทียน จ.ชลบุรี หมู่เหมืองหินเขายะลา อ.เมือง จ.ยะลา และหมู่เหมืองหิน อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
