พระนครศรีอยุธยา - รวบหนุ่มใหญ่เป้าหมายที่ตำรวจล่าตัวมานาน หลังตระเวนฉกโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศกว่า 500 เครื่อง มูลค่ากว่า 7 ล้าน ทั้งเล่น-ใช้หนี้พนันบอล เผยเพิ่งพ้นโทษคดีลักโน้ตบุ๊ก เมื่อปี 2553
วันนี้ (15 ส.ค) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก.ภ.จว. ควบคุมตัว นายธเนศ รัตนาวราโภ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 หมู่ 2 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือตามห้างสรรพสินค้า ใน จ.พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัดในภาคกลาง ไปทำแผนประกอบคำรับสภาพที่ศูนย์เทเลวิซ ภายในศูนย์การค้าอยุธยาซิตตี้ปารค์ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา
ซึ่งผู้ต้องหาจะมีพฤติกรรมทำทีเข้ามาเลือกดูโทรศัพท์มือถือที่โชว์เอาไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ หากมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย จะใช้เท้าเขี่ยให้ปลั๊กไฟหลุด จากนั้นจะใช้ใบโบรชัวร์ปิดโทรศัพท์ แล้วถอดสายออกไป โดยะนำไปขายต่อย่านมาบุญครองราคาเครื่องละ 15,000-20,000 บาท แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ โดยจะเลือกโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ และรุ่นซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาด
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์เป็นโน้ตบุ๊ก เมื่อปี 2553 จากนั้นได้ออกตระเวนก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือตามห้างสรรพสินค้า ทั้งในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ระยอง กาญจนบุรี รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 เครื่อง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท โดยนำเงินที่ได้ไปเล่นพนันฟุตบอล
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมของตำรวจของนครบาล และชุดสืบสวนมานาน แต่ตำรวจได้ติดตาม และแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพถ่ายเป็นชายต้องสงสัยลักษณะอ้วนท้วม มีรอยสักรูปไม้กางเขนที่ข้อมือซ้าย เมื่อตรวจสอบกับประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน จึงทราบตัวผู้ต้องหา และติดตามไปจับกุมตัวได้ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เป็นรายสำคัญที่ตำรวจต้องการตัวอย่างมาก เนื่องจากก่อเหตุในหลายพื้นที่
นายธเนศ กล่าวว่า ตนเคยเล่นพนันฟุตบอลจนมีเงินเก็บกว่า 7 ล้านบาท มีรถยนต์หรูป้ายแดง 3 คัน ซื้อคอนโดมีเนียม 1 ห้อง แต่ต่อมาก็เสียหมดจนเหลือแต่ตัว ต้องกลับมาก่อเหตุตระเวนลักโทรศัพท์มือถือเพื่อหาเงินไปเล่นพนันฟุตบอล และใช้หนี้พนัน โดยใน 1 เดือน จะก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 10 เครื่อ และนำไปขาย ก่อนนำเงินมาใช้จ่ายรายเดือน และใช้หนี้ จนถูกตำรวจจับได้ในที่สุด