กาฬสินธุ์ -โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่เข้าเขื่อนช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กันยายน ขณะปริมาณน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 682 ล้าน ลบ.ม. ยังเพียงพอต่อการส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตร 3 แสนไร่
วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พบว่าน้ำฝนยังคงไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ จากเดิมมีน้ำเหลืออยู่เพียง 18% ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 682 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 34 % จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจากนี้ไปต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนคาดว่าจะมีพายุลูกใหม่เข้ามา ประกอบกับอยู่ในช่วงน้ำหลาก ซึ่งทุกปีในช่วงนี้จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายนริศ วงษ์เวช หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวที่ 1 ยังคงเฝ้าติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวอย่างใกล้ชิด พร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรพร้อมในการปฏิบัติการทันที หากเกิดปัญหาพนังขาดหรือน้ำท่วม
นายนริศกล่าวว่า ระดับน้ำในเขื่อนลำปาวอยู่ในภาวะที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มีโอกาสเกิดพายุพัดผ่าน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่หากเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งยังไม่น่าเป็นห่วงเพราะเขื่อนลำปาวยังรองรับน้ำได้อีกมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางเขื่อนส่งน้ำเข้ายังคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย และส่งน้ำลงไปยังแม่น้ำลำปาว และแม่น้ำชี เฉลี่ยวันที่ 2.2 ล้าน ลบ.ม.เพื่อรักษาระบบนิเวศ และช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก และการประมง ซึ่งปัจจุบันมีการปลูกข้าวเต็มพื้นที่ 300,556 ไร่ และเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา 4,557 ไร่