พิษณุโลก - ปิดฉาก 52 ปีรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลก ประกาศยุติให้บริการทุกสาย 30 พ.ย.นี้หลังแบกภาระขาดทุนสะสมไม่ไหว ราคาน้ำมันพุ่ง สังคมเปลี่ยนแปลง ทำผู้โดยสารที่เคยพึ่ง “รถเมล์บ้านเรา” เคว้ง
วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวพิษณุโลกที่เคยใช้บริการ “รถเมล์บ้านเรา” ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสายหลายเส้นทางในเมืองสองแควมานานถึง 52 ปี ต่างพากันใจหาย และรู้สึกเสียดาย หลังทราบข่าวว่าจะหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพราะถ้าไม่มีรถเมล์รอบเมืองบริการการเดินทางก็จะลำบากมากขึ้น จะนั่งรถแท็กซี่หรือจักรยานยนต์รับจ้างก็เก็บค่าโดยสารแพงกว่า
น.ส.พิกุล จันทร์ทอง อายุ 32 ปี พนักงานเก็บเงิน เปิดเผยว่า ทำงานรถเมล์บ้านเรามาตั้งแต่ตนเองอายุ 17 ปี จนถึงขณะนี้อายุงาน 15 ปีแล้ว รู้สึกใจหาย และเป็นข่าวร้ายที่มาเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งช่วงนี้ก็ยังทำงานอยู่จนกว่าจะถึงวันสุดท้าย และต้องหางานทำใหม่
สำหรับรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลกที่คนพิษณุโลกรู้จักกันดีในชื่อ “รถเมล์บ้านเรา” ก่อตั้งโดยนายอรุณ ภักดิ์ประไพ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิษณุโลก (ปัจจุบันอายุ 102 ปี) เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2505 เป็นกิจการที่บริหารงานในรูปแบบครอบครัว
หลังจากนายอรุณ และนางชวนชื่น ภักดิ์ประไพ วางมือแล้วได้ผลัดเปลี่ยนให้ลูกหลานเข้ามาบริหารงานต่อแล้วหลายรุ่น เริ่มจากนางงามต (ภักดิ์ประไพ) บูรณะเขตต์ ที่บริหารงานร่วมกับนายนรินทร์ศักดิ์ บูรณะเขตต์ จากนั้นก็สืบทอดกิจการต่อโดยนางสุมาลี อุ่นเรือน ก่อนที่คนรุ่นหลานจะเข้ามาบริหาร คือ นายกล้าณรงค์ ภักดิ์ประไพ จนนายนรินทร์ศักดิ์ บูรณะเขตต์ กลับมาบริหารอีกครั้งตั้งแต่ปี 2556
นายนรินทร์ศักดิ์ บูรณะเขตต์ ผู้จัดการบริษัท พิษณุโลกบริการ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องขอยกเลิกสัมปทานเดินรถ และยุติบริการรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลก ต่อสำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้ว
โดยมีกำหนดการยกเลิกบริการทุกสายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยระยะนี้ยังคงเปิดบริการใน 6 เส้นทาง ตามเงื่อนไขที่ทำกับขนส่งจังหวัดไปจนถึงวันสุดท้าย ได้แก่ สาย ม.นเรศวร สายบ้านกร่าง สายวัดอรัญญิก สายรอบเมือง สายบึงพระ-แม่ระกา และสายท่าตาล
สำหรับสาเหตุที่ต้องยุติการให้บริการรถเมล์บ้านเรา เพราะทนกับภาวะขาดทุนต่อเนื่องไม่ไหว ทั้งค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ผู้โดยสารลดลง สภาพสังคมเปลี่ยนไปมาก ถนนเท่าเดิม และสภาพการจราจรหนาแน่น
นายนรินทร์ศักดิ์กล่าวว่า รถเมล์รอบเมืองพิษณุโลกเป็นกิจการครอบครัว บริหารงานแบบกงสี โดยครอบครัวภักดิ์ประไพรุ่นลูกหลานได้ผลัดกันมาดูแลบริหารกิจการหลายรุ่น ตนเข้ามาบริหารครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2556 พยายามประคับประคองปรับปรุงรถ ปรับปรุงการบริการ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าไม่สามารถแบกรับภาระขาดทุนได้ เพราะแต่ละเดือนรถเมล์บ้านเราต้องแบกภาระค่าน้ำมันประมาณ 1.5 ล้านบาท แต่เก็บค่าโดยสารได้เดือนละ 1.2 ล้านบาท ทั้งยังต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานอีกประมาณเดือนละ 5 แสนบาท
“เราต้องใช้เงินครอบครัวมาอุดหนุนตลอดจนไม่ไหวแล้ว ต้องตัดสินใจยกเลิกกิจการ ซึ่งได้ประชุมพนักงานทั้ง 60 ชีวิต โดยชี้แจงให้พนักงานเข้าใจ และให้เงินชดเชยพนักงานตามกฎหมายทุกอย่าง ส่วนผู้โดยสารทางบริษัทจะติดประกาศให้ทราบตามป้ายรถเมล์ และบนรถที่ให้บริการอยู่ ขณะที่ทรัพย์สินต่างๆ ก็จะทยอยขายออกไป ทั้งรถเมล์ปรับอากาศ และรถเมล์ธรรมดา”
นายนรินทร์ศักดิ์กล่าวว่า ครอบครัวก็รู้สึกเสียดาย เป็นห่วงผู้โดยสาร และพนักงาน โดยเคยนำเสนอยกรถเมล์ทั้งหมดให้เทศบาลนครพิษณุโลกบริหาร ด้วยการรับพนักงานไปด้วย แต่เทศบาลฯ รับไม่ได้เพราะผิดข้อบัญญัติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสำนักงานขนส่งจังหวัดน่าจะดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการเดินรถรอบเมืองในเส้นทางเดิมรายใหม่ได้ หรืออาจจะเปิดสัมปทานเดินรถใหม่ และขนาดรถอาจจะเล็กลงก็ได้
