xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 โจ๋บุรีรัมย์แก๊งยาบ้าเรือนจำรายใหญ่ ได้ของกลาง 8.8 หมื่นเม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ และ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว. บุรีรัมย์ ร่วมแถลงข่าวตร.บุรีรัมย์ ร่วม ตชด.21 จับกุม 2 วัยรุ่นแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่เครือข่ายเรือนจำได้ของกลางยาบ้า  88,000เม็ด และ ยาไอซ์ 100 กรัม รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
บุรีรัมย์ - ตร.บุรีรัมย์ร่วม ตชด.21 รวบ 2 โจ๋ชาย-หญิงแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่เครือข่ายเรือนจำบุรีรัมย์ที่นักโทษพี่ชายโทร.จากคุกสั่งซื้อยาบ้าจากลาวขนข้ามโขงผ่าน จ.บึงกาฬ ก่อนแจ้งให้น้องชายไปรับมาพักไว้เขากระโดงรอส่งลูกค้า แต่ถูกตำรวจบุกจับยกแก๊ง พร้อมของกลางยาบ้า 88,000เม็ด และยาไอซ์ 100 กรัม รวมมูลค่ากว่า 20 ล้าน เผย จนท.จู่โจมค้นเรือนนอนนักโทษทันควัน

วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะกร ผบ.ร้อย ตชด.216 ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 3 และเจ้าหน้าที่ทหาร จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์

ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด เครือข่ายเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายพงษ์สธร หรือ ต้น อาสาวิเศษ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 13 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และนางสาวขวัญฤทัย หรือ มิ่ง ยิ่งรัมย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166/3 ถ.หน้าสถานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

พร้อมของกลางยาบ้า เม็ดสีส้ม จำนวน 87,120 เม็ด และยาบ้า เม็ดสีเขียว จำนวน 880 เม็ด รวมยาบ้าทั้งสิ้นจำนวน 88,000 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกแบบกดปิด-ดึงเปิดสีฟ้า จำนวน 440 ถุง ห่อด้วยกระดาษสาเคลือบไขมันสีน้ำตาล จำนวน 44 มัด พันรอบด้วยเทปกาวสีน้ำตาล และยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาว 100 กรัม ห่อด้วยกระดาษสีขาวพันรอบด้วยเทปกาวสีใส กระสอบปุ๋ยสีขาว 1 ใบ

รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีม่วง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีม่วง-ดำ หมายเลขทะเบียน คกร 909 บุรีรัมย์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางประมาณ 20 ล้านบาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 21 สุรินทร์, ตชด. 216 ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่อำพรางเป็นคนส่งยาบ้า ที่บริเวณลานจอดรถ ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาบุรีรัมย์ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์

จนกระทั่งบ่ายวานนี้ (14 ส.ค.) ถึงเวลานัดหมาย นายพงษ์สธรขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีม่วง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับออกนำหน้า และ นางสาวขวัญฤทัย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง-ดำ หมายเลขทะเบียน คกร 909 บุรีรัมย์ ขี่ตามหลังกันมา พร้อมกับเข้ามาพูดคุยกับสายลับ และเจ้าหน้าที่อำพราง

ก่อนที่นายพงษ์สธรได้ขอให้เจ้าหน้าที่อำพรางให้พาไปรับยาบ้าที่อยู่ในรถยนต์เก๋งของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่จอดรถไว้ที่จุดจอดรถ เจ้าหน้าที่อำพรางได้เปิดประตูรถยนต์เก๋ง พร้อมกับให้นายพงษ์สธรรับเอายาบ้าของกลาง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ดักซุ่มอยู่จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมนายพงษ์สธร ได้พร้อมกระสอบบรรจุยาบ้าของกลางจำนวน 88,000 เม็ด และยาไอซ์อีก 100 กรัม ค้นตัวพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และได้จับกุมนางสาวขวัญฤทัย ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์จะหลบหนี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

จากการสอบสวน นายพงษ์สธร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากนายชัยชนะ หรือ โต้ง อาสาวิเศษ ซึ่งเป็นพี่ชาย ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าจะมีคนเอายาบ้ามาส่งให้ที่ จ.บุรีรัมย์ จึงให้ตนเป็นคนไปรับยาบ้าดังกล่าว โดยพี่ชายได้นำหมายเลขโทรศัพท์ของตนให้นายยาว ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง หลังจากนั้นตนก็ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือกับนายยาวเรื่อยมา

จนกระทั่งวันที่ 14 ส.ค. ตนได้รับการติดต่อให้ไปรับยาบ้าดังกล่าวที่ลานจอดรถ ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาบุรีรัมย์ เมื่อตนได้รับยาบ้าแล้วจะนำยาบ้าไปเก็บพักไว้ที่เขากระโดง บ้านกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อรอพี่ชายสั่งการอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้นำไปส่งที่ใด การกระทำครั้งนี้พี่ชายได้ว่าจ้างตนเป็นเงิน 100,000 บาท อีกประมาณ 2-3 วันพี่ชายจึงจะโอนค่าจ้างให้กับตนโดยผ่านบัญชีธนาคาร โดยได้รับการติดต่อว่าจ้างจากพี่ชายมาแล้ว 2 ครั้ง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว

หลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้ พ.ต.ต.ไวพจน์ สุชาครีย์กุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

ต่อมาตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ประสานเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมทหาร ตำรวจจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ เรือนนอน 3 ห้อง 3/1 พบโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด และอุปกรณ์ชาร์จ 1 ชุด พร้อมกับเศษกระดาษที่มีหมายเลขโทรศัพท์ พร้อมชื่อ ระบุที่อยู่จาก จ.บึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว จากที่นอนของนักโทษชายชัยชนะ อาสาวิเศษ หลังนายพงษ์สธร ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าเป็นคนสั่งการซื้อขายยาบ้าดังกล่าว

นายชัยชนะยอมรับว่าได้ใช้โทรศัพท์ดังกล่าวสั่งการซื้อขายยาบ้าจริง โดยสั่งซื้อยาบ้ามาจากประเทศลาว ผ่านทาง จ.บึงกาฬ จึงได้ตรวจยึดและบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น