อุตรดิตถ์ - ชาวท่าปลาหลั่งน้ำตาจุดธูปใต้ไทรยักษ์ 100 ปี วิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ คสช.ช่วยแก้ปัญหาเอกสารสิทธิที่ดิน หลังสร้างมรดกบาปให้ลูกหลานเหลนมานาน 47 ปี สละที่ดินทำกินสร้างเขื่อน แต่ไม่มีโฉนดเป็นของตนเอง
วันนี้ (6 ส.ค.) นายเกียรติพันธ์ รังสีสาคร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าปลา พร้อมด้วยชาวบ้านจาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.จริม ต.หาดล้า ต.ท่าปลา และ ต.ท่าแฝก กว่า 200 คน รวมตัวกันบริเวณโคนต้นไทรยักษ์อายุกว่า 100 ปี วัดหาดลั้ง หมู่ที่ 10 บ้านปางผึ้ง ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์
จากนั้นนายคำ ขันมูล ราษฎรบ้านปางผึ้ง ได้เป็นประธานในพิธีบวงสรวงเทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเครื่องบายศรีปากชาม 9 ชั้น บายศรีปากชาม 12 ชั้น น้ำเขียว น้ำแดงและผลไม้ 9 อย่าง ก่อนที่นายสวัสดิ์ เจริญชัย ราษฎรตำบลจริม จะเป็นประธานจุดธูปกล่าวนำอธิษฐาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้ชาวบ้านได้รับโฉนดที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และได้รับการจัดสรรที่ดินอย่างเป็นธรรม
พร้อมกับเทพเทวดาช่วยดลบันดาลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธาน คสช. ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินให้ประชาชนชาวท่าปลา
หลังชาวบ้าน 4 ตำบล 24 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 2,000 ครอบครัว ยอมเสียสละที่ดินทำกินของตนเองที่อุดมสมบูรณ์ให้รัฐบาลใช้ก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนไทยทั้งประเทศมีไฟฟ้าใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 อพยพเข้าไปอยู่ในที่ดินจัดสรรของนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน
แต่ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะที่ดินที่จัดสรรให้เป็นพื้นที่สูงและกันดาร ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อการเกษตร ที่ดินที่ได้รับการจัดสรรบางแปลงถูกทับซ้อนกับที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดินของชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิมก่อนแล้ว ทำให้ต้องอพยพหนีรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อความอยู่รอด ที่ดินที่ชาวบ้านได้รับบริเวณสองข้างทางถนนสายแซดเดิ้ล-ท่าปลา กลายเป็นที่ราชพัสดุ ไม่มีโฉนดเป็นของตนเอง ทั้งที่เป็นผู้เสียสละที่ดินในการสร้างเขื่อนสิริกิติ์มานานถึง 47 ปี สร้างความเจ็บช้ำให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ชาวบ้านหลายคนถึงกับร่ำไห้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจ เพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับการดิ้นรนต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้รับให้ตนเอง และลูกหลานในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องค่าชดเชยที่ไม่เป็นธรรม ที่ดินถูกทับซ้อนและไม่มีเอกสารสิทธิ ทำให้ชีวิตต้องตกระกำลำบากยากจน และตกเป็นมรดกบาปมาถึงลูก หลาน เหลน ซึ่งบรรพบุรุษยอมเสียสละที่ดินตนเองอันอุดมสมบูรณ์เพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ แต่กลับต้องมาทนทุกข์ทรมานขาดการเหลียวแลจากภาครัฐมาจนถึงปัจจุบันนี้
