บุรีรัมย์ - แรงงานภาคเกษตรชาวบุรีรัมย์แห่สมัครไปทำงานประเทศอิสราเอลคึกคัก เพียง 2 วันมากกว่า 60 คน คาดปิดรับสมัครยอดทะลุ 300 ลั่นไม่กลัวสงครามขอแค่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะจัดหางานเตือนแรงงานระวังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเรียกรับเงิน หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอาผิดทันที
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีแรงงานภาคเกษตร และคนหางานจากอำเภอต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาลงทะเบียนสมัครไปทำงานประเทศอิสราเอล ที่ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้เปิดรับสมัครตาม “โครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน ครั้งที่ 6” ซึ่งเป็นการสมัครไปทำงานต่างประเทศในรูปแบบรัฐจัดส่งนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
ตลอด 2 วันที่เปิดรับสมัครได้มีแรงงานสนใจมายื่นใบสมัครแล้วกว่า 60 คน และคาดว่าหลังปิดรับสมัครในวันที่ 8 ส.ค. 2557 จะมีแรงงานมาสมัครไม่ต่ำกว่า 300 คน แม้ที่ประเทศอิสราเอลจะมีสถานการณ์สู้รบก็ตาม แต่แรงงานส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กลัวภัยสงคราม และพร้อมที่จะวิ่งหลบกระสุน ขอแค่ให้มีงานทำ มีรายได้เพื่อมาเลี้ยงจุนเจือครอบครัว
การเปิดรับสมัครแรงงานไปทำงานประเทศอิสราเอลในครั้งนี้จะเปิดรับพร้อมกันทั่วประเทศ หลังเสร็จสิ้นการรับสมัครทางจัดหางานจังหวัดจะรวบรวมรายชื่อแรงงานทั้งหมดส่งไปยังสำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน เพื่อจัดเก็บข้อมูลหรือขึ้นบัญชีไว้ และเมื่อมีตำแหน่งงานที่นายจ้างต้องการ ก็จะทำการสุ่มเลือกรายชื่อของผู้ที่ขึ้นบัญชีไว้จัดส่งไปทำงานตามลำดับต่อไป
ขณะแรงงานที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลจำนวน 701 คน ขณะนี้ยังไม่มีญาติมาแจ้งขอความประสงค์ให้ช่วยเหลืออพยพกลับแต่อย่างใด
นายอนันต์ กลั่นขยัน จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครต้องเป็นเพศชาย อายุระหว่าง 23-39 ปี ไม่มีประวัติอาชญากรตามกฎหมายไทย ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดามารดาอาศัยอยู่ในประเทศอิสราเอล ไม่เคยเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีอาการตาบอดสี หรือโรคติดต่อร้ายแรง และมีประสบการณ์ทำงานด้านเกษตรกรรม
แต่เนื่องจากมีสถานการณ์การสู้รบในขณะนี้ ทางกรมการจัดหางานจะยังไม่ส่งแรงงานไป ต้องรอให้เหตุการณ์สู้รบสงบลงก่อนเพื่อไม่ให้แรงงานได้รับอันตราย พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งเตือนแรงงานให้ระมัดระวังกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสหลอกลวงเรียกรับผลประโยชน์ โดยอ้างจะสามารถช่วยเหลือให้ไปทำงานต่างประเทศได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะทางกรมการจัดหางานจะดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ หากแรงงานรายใดถูกหลอกหรือพบเห็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ในลักษณะแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ สามารถแจ้งจัดหางานจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงให้เข้าไปตรวจสอบเอาผิดกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป