บุรีรัมย์สนอง “คสช.” จัดรณรงค์ขึ้นทะเบียนเกษตรกร-ลดต้นทุนผลิตข้าว

บุรีรัมย์ - จังหวัดบุรีรัมย์จัดงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าว เพื่อคืนความสุขให้ชาวนาตามนโยบายของ คสช.

วันนี้ (3 ส.ค.) นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าวเพื่อคืนความสุขให้ชาวนา โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันจัดขึ้น ที่บริเวณโดมอเนกประสงค์ สวนรมย์บุรี เทศบาลเมืองบุรีรัมย์

เพื่อให้ชาวนาและประชาชนที่สนใจรับทราบมาตรการช่วยเหลือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเร่งรัดให้ชาวนาเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 โดยมีชาวนา องค์กรเกษตรกร ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกว่า 1,000 คนเข้าร่วมงาน

ภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการเผยแพร่มาตรการแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 ของ คสช. เช่น เรื่องการลดราคาปัจจัยการผลิต การเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ราคาถูก การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว มาตรการควบคุมค่าเช่านา ประชาสัมพันธ์สถานที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตภายในจังหวัดและอำเภอที่มีคุณภาพราคาถูก การสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ และได้มีการเปิดรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายในงานด้วย ซึ่งได้มีเกษตรกรสนใจมาขึ้นทะเบียนคึกคัก

นอกจากนี้ ยังมีการมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2556 แก่ตัวแทนเกษตรกร มอบเงินชดเชยแก่เกษตรกรตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 มอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลแก่เกษตรกรผู้ชนะเลิศการประกวดเกษตรกรดีเด่นสาขาต่างๆ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรและวิสาหกิจชุมชน พร้อมชมการแสดงดนตรีจากจังหวัดทหารบก เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่ทำนาทั้งหมด 3,595,809 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 79.45 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด ในปีการผลิตที่ผ่านมามีชาวนาขึ้นทะเบียนและได้รับใบรับรอง 153,901 ครัวเรือน พื้นที่ 3,021,551 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 84 ของพื้นที่ทำนาทั้งหมด ซึ่งในปีนี้ก็คาดว่าจะมีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา

นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า การทำนาของชาวนาในปัจจุบันต้นทุนการทำนามีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยในการผลิตหลายๆ อย่าง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย สารเคมี และอื่นๆ มีราคาสูงขึ้น ทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวนา ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ

ทาง คสช.จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการช่วยเหลือชาวนาจากประชานิยม (การรับจำนำข้าว) เป็นการช่วยเหลือโดยการลดราคาปัจจัยการผลิตให้แก่ชาวนา และสนับสนุนองค์ความรู้เรื่องการใช้ปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อไร่ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพทำนา เนื่องจากการลดต้นทุนการผลิตข้าวเป็นแนวทางหนึ่งที่เกษตรกรจะพึ่งพาตนเองได้

การรณรงค์ขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ก็เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นความสำคัญของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อจะได้รับสิทธิการช่วยเหลือตามมาตรการ และกรณีประสบภัยพิบัติผลผลิตได้รับความเสียหายด้วย