บุรีรัมย์ - ทหารบุรีรัมย์นำ จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยตรวจสอบกรณี จนท.รัฐและนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าชุมชนบ้านโคกน้ำซับ-บ้านหนองถั่วแปบ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านบุกร้อง จทบ.บุรีรัมย์และเรียกร้อง คสช.ให้เอาผิด พบบุกรุกจริงเตรียมแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติม และรอคำสั่งศาลเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
วันนี้ (30 ก.ค.) พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนจาก กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์, ผู้แทนนายอำเภอนางรอง, ผู้แทนปฏิรูปที่ดินจังหวัด, ผู้แทนป่าไม้จังหวัด, ผู้แทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง ได้ประชุมร่วมกับ นายอัมรินทร์ เหมวัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวถนน, สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน กำนันตำบลหัวถนน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้าน ม.2 บ้านโคกน้ำซับ และ ม.3 บ้านหนองถั่วแปบ ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน อ.นางรอง
เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกน้ำซับ-บ้านหนองถั่วแปบ ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเมืองไผ่ เนื้อที่กว่า 417 ไร่ ต่อมาในปี 2553 ได้ถูกกลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการบางคน เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า และตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ต้นเต็ง รัง และต้นพลวง ไถผืนป่าจับจองทำประโยชน์ส่วนตัวเกือบ 200 ไร่
ขณะที่บางส่วนได้มีการปลูกต้นยางพารา ยูคาลิปตัส มันสำปะหลัง และทำนา จนกระทั่งเมื่อเดือน ต.ค. 2554 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้รุกบุกจำนวน 4 ราย ที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า อ้างว่ายังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน
โดยชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อกลุ่มผู้บุกรุก และคืนผืนป่าแห่งนี้กลับสู่ชุมชน เพื่อจะได้ร่วมกันปลูกป่าชุมชนที่ชาวบ้านในตำบลหัวถนนได้ร่วมกันอนุรักษ์หวงแหนมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ทั้งได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ เก็บเห็ด และหาของป่ามาวางขายตามริมถนนเพื่อเป็นรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวมานานหลายปี แต่หลังจากกลุ่มนายทุนดังกล่าวเข้าไปบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเก็บเห็ด และของป่าในพื้นที่ดังกล่าวได้
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ ส.ป.ก. ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านได้ลงสำรวจพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกน้ำซับ-บ้านหนองถั่วแปบ พบว่ามีการบุกรุกป่าจริง โดยมีแผ้วถาง ไถผืนป่าแล้วปลูกต้นยางพารา ยูคาลิปตัส มันสำปะหลัง และทำนา
ทางเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงทำการสำรวจแล้วนำหลักหมุดแนวเขต ส.ป.ก.ได้ปักไว้ หากพบเห็นมีการบุกรุกใหม่อีก ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อผู้บุกรุกตามกฎหมายต่อไป
นายอัมรินทร์ เหมวัฒน์ นายก อบต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง อบต.กรณีมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลุ่มผู้มีอิทธิพลบางคนเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้เพื่อทำประโยชน์ส่วนตัวทั้งทำนา ปลูกยางพารา ยูคาลิปตัส และปลูกมันสำปะหลัง เสียหายไปแล้วเกือบ 200 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดต่อกลุ่มผู้บุกรุกมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้า จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านตำบลหัวถนนได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.เสริมศักดิ์ นิยะโมสถ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกน้ำซับ-บ้านหนองถั่วแปบ ซึ่งทางผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ทหารลงมาสำรวจพื้นที่ป่า และพบมีการบุกรุกจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียน
จึงอยากขอฝากและเรียกร้องไปยังคณะรักษาความแห่งชาติ (คสช.) ให้ช่วยดำเนินการเอาผิดกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกน้ำซับ-บ้านหนองถั่วแปบ ทุกรายตามกฎหมาย เพราะว่าหากเราไม่ร่วมกันอนุรักษ์หวงแหนป่าแห่งนี้ไว้ก็จะไม่มีป่าให้ลูกหลานในอนาคต
ทางด้านนายทศพล ทองเจริญ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.1 (ดงใหญ่) อ.ปคำ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านร้องเรียนไปยังทหาร ทางป่าไม้ได้ร่วมกับทางทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ลงมาสำรวจแล้ว พบว่ามีการบุกรุกป่าจริง ซึ่งจะได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายต่อกลุ่มผู้บุกรุกรายใหม่ เพราะยังไม่พบผู้กระทำผิดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ซึ่งก่อนนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 4 ราย และต้องรอศาลสั่งก่อนจึงจะดำเนินการรื้อถอน และไถต้นไม้ที่บุกรุกออก และปลูกป่าทดแทนขึ้นมาใหม่