xs
xsm
sm
md
lg

อช.-ทหารสนธิกำลังถอนต้นยางพารา สิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งศาลรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - อช.เขาแหลม พร้อมทหาร ฉก.ลาดหญ้า สนธิกำลังเข้าถอนต้นยางพารากว่า 600 ต้น พร้อมสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งศาลที่มีการลักลอบปลูกในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ด้านกรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบหาพิกัด 2 รีสอร์ตหรู เบื้องต้นพบตั้งอยู่นอกเขตป่าไม้ และนอกเขตอุทยานฯ เตรียมประสาน กฟผ.สำรวจ

วันนี้ (27 ก.ค.) นายวิโรจน์ โรจนจินดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ร่วมกับ พ.อ.ฐกัด หลอดศิริ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้สนธิกำลังกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ปฏิบัติการรื้อถอนต้นยางพารา พืชผลอาสิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดี จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ 15 ไร่ ที่มีการลักลอบปลูกในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

ประกอบด้วย แปลงที่ 1 ที่บ้านโบอ่อง หมู่ 2 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เนื้อที่ 9 ไร่ ต้นยางพารา จำนวน 450 ต้น กระต๊อบ 1 หลัง แปลงที่ 2 บ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เนื้อที่ 4 ไร่ ต้นยางพารา จำนวน 49 ต้น และแปลงที่ 3 บ้านโป่งช้าง หมู่ที่ 6 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ เนื้อที่ 2 ไร่ ต้นยางพารา จำนวน 125 ต้น ซึ่งต้นยางทั้งหมดมีอายุประมาณ 3 ปี การรื้อถอนต้นยางทั้งหมด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดดำเนินคดีทั้ง 3 แปลง ไว้เมื่อปี 2555 และศาลมีคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลอาสินออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลมดังกล่าว

ด้านกรมป่าไม้ นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณรีสอร์ตภูไพรเลค กับ รีสอร์ตผานกเงือก ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบว่าตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ หรืออยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือไม่

และจากการใช้เครื่องจีพีเอส วัดหาพิกัดดาวเทียมเปรียบเทียบกับแผนที่ ปรากฏว่า ที่ตั้งของรีสอร์ตทั้ง 2 แห่ง อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น จะประสานไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิดฯ (กฟผ.) ให้ตรวจสอบพื้นที่ตั้งรีสอร์ตทั้ง 2 แห่งว่าตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือไม่ หากใช่ก็เป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ

หากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ ก็จะต้องมาพิจารณาร่วมกันว่ารีสอร์ตทั้ง 2 แห่งอยู่ในสถานะใด หรือเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 หรือไม่ ซึ่งคงต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น