xs
xsm
sm
md
lg

สนธิกำลัง 500 นาย บุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างผู้บุกรุก “ป่าดงใหญ่” บุรีรัมย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จนท.กระทรวงทรัพยากรฯ สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง กว่า 500 นาย นำหมายบังคับคดีเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้ (25 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - จนท.กระทรวงทรัพยากรฯ สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 500 นาย นำหมายบังคับคดีเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ 2 หมู่บ้าน กว่า 30 ครัวเรือน ขณะชาวบ้านเคลื่อนย้ายออกจากพื้นป่าก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง เกรงถูกจับกุมดำเนินการตามหมายบังคับคดีศาล

วันนี้ (25 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังกับทหารตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 500 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่อัยการ และผู้พิพากษาศาลจังหวัดนางรอง ได้นำหมายบังคับคดี หมายเลขดำที่ 2270/2554 และหมายเลขแดงที่ 1329/2555 เข้าไปบังคับคดีตามคำสั่งศาลจังหวัดนางรอง ให้แกนนำผู้บุกกรุก และบริวารทั้ง 6 กลุ่ม ออกนอกเขตพื้นที่ป่าสงวนดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ แปลงที่หมดสัมปทานทั้ง 7 แปลงของภาคเอกชนกว่า 23,000 ไร่

โดยการเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในครั้งนี้ ไม่พบแกนนำ และชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านเก้าบาตร และบ้านเสียงสวรรค์ ที่ยังปักหลักไม่ออกมาจากพื้นที่แต่อย่างใด เพราะต่างได้พากันขนย้ายสิ่งของออกนอกพื้นที่ป่าก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง ซึ่งคาดว่าผู้บุกรุกน่าจะเกรงกลัวเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีตามหมายบังคับคดีของศาล ทำให้ไม่มีการคัดค้าน และเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กระจ่ายกำลังทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัย ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันกว่า 30 หลัง ออกทั้งหมด เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้บุกรุกเข้าไปพักอาศัยในพื้นที่ป่าได้อีก โดยจะแยกทั้งไม้ สิ่งปลูกสร้าง ทรัพย์สินมีค่าดังกล่าวออกไว้ เพื่อให้ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของมารับคืนภายใน 15 วัน หากไม่มารับคืนสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินดังกล่าวจะตกเป็นของราชการทันที

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังให้ชาวบ้านผู้บุกรุกเข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิต มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวที่ปลูกไว้ได้อีกหนึ่งฤดูกาล แต่ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด โดยไม่ให้ค้างคืน

ทางด้าน นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 จ.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่าดังกล่าว จะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจสกัดตามเส้นทางเข้าออกป่าจำนวน 6 จุด เพื่อไม่ให้ชาวบ้าน และบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ป่าดังกล่าวได้อีก เพราะปัญหาพื้นที่ดังกล่าวเป็นปัญหาการบุกรุกเรื้อรังมากกว่า 10 ปีแล้ว

จากนี้จะร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ และภาคเอกชน เข้าฟื้นฟูให้เป็นที่อยู่ และแหล่งอาหารของสัตว์ป่า เป็นป่าต้นน้ำ และผนวกเข้าเป็นพื้นที่ป่ามรดกโลกดังกล่าวต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น