xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมาแล้ว! ศรีสะเกษอ่วมจมบาดาลกว่า 500 หลังสั่งปิดโรงเรียน 6 แห่ง น่านเสี่ยงดินสไลด์ทับ 2 หมู่บ้าน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูมิภาค - หลายจังหวัดภาคเหนือและอีสานถูกน้ำท่วมแล้ว "ศรีสะเกษ" อ่วมฝนถล่มหนัก 2 วันติดบ้านเรือนประชาชนจมบาดาลกว่า 500 หลัง ชาวบ้านขนย้ายของอลหม่าน ขณะที่ถนนสายไปอุบลฯ ถูกตัดขาด พร้อมสั่งปิดโรงเรียนอีก 6 แห่ง ส่วนที่ "เชียงราย" เจอฝนหนักน้ำป่าจากดอยหลวงทะลักลงห้วยพัดเด็กนักเรียน ม.2 จมน้ำไหลไปไกลกว่า 200 เมตร ชาวบ้านตามช่วยเจอหมดสติต้องเร่งนำส่ง รพ.อาการยังหนัก ไม่ได้สติทั้งคืน "น่าน"ทางเข้าหมู่บ้านบ่อเกลือใต้เกิดรอยแยกยาว 200 เมตรเสี่ยงดินสไลด์ทับ 2 หมู่บ้าน





วานนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หลังจากได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องนานติดต่อกัน 2 วัน ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่บ้านหนองงูเหลือม หมู่ 1, 2, 3, 11 และหมู่ 13 ต.หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์ ได้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกระจายเป็นบริเวณกว้าง รวมกว่า 500 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.60 เมตร ชาวบ้านต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วมกันอย่างโกลาหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวเปลือกที่เก็บเอาไว้ ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้นำเรือยาวและเรือท้องแบนจำนวน 35 ลำ ไปช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วมอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันถนนสาย อ.เบญจลักษ์ไป จ.อุบลราชธานี น้ำได้ท่วมถนนที่บริเวณบ้านโนนค้อ เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรไว้แล้ว เพื่อความปลอดภัย โดยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงไปใช้เส้นทางจากตัวเมืองศรีสะเกษไปยัง จ.อุบลราชธานี แทน

เช่นเดียวกับที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่บริเวณถนนชิดบัญชา หน้าโรสอินรีสอร์ท ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ ซึ่งอยู่กลางตัว อ.กันทรลักษ์ น้ำได้ท่วมถนนและไหลเอ่อเข้าไปท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านเช่นกัน

**ศรีสะเกษสั่งปิดโรงเรียนแล้ว 6 แห่ง

ส่วนที่บ้านโพธิ์ ต.โพธิ์ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนและไร่นาของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้างเช่นกัน โดยถนนระหว่างบ้านหนองแกกับบ้านหนองปลาเข็ง หมู่ 6 ต.โพธิ์ น้ำท่วมถนนเป็นทางยาวประมาณ 500 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มาช่วยชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำท่วม พร้อมทั้งได้ปิดกั้นการจราจรไม่ให้ประชาชนสัญจรไปมา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ขณะเดียวกันบริเวณถนนสายบ้านแดง-บ้านเหล่าเสน ต.บก อ.โนนคูณ น้ำท่วมไร่นาสองข้าทางก็ได้ไหล่เอ่อเข้ามาท่วมถนน เป็นระยะทางยาวกว่า 700 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯได้นำเอาเรือท้องแบนมาติดตั้งเครื่องยนต์เพื่อไว้บริการประชาชนขนทรัพย์สินหนีน้ำท่วม และเพื่อสัญจรไปมา โดยในเขต ต.บก อ.โนนคูณ ผู้บริหารโรงเรียนได้สั่งปิดโรงเรียนแล้ว 6 แห่ง เนื่องจากเกรงว่า คณะครู นักเรียน อาจจะได้รับอันตรายจากเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยได้สั่งปิดเป็นการชั่วคราว จำนวน 3 วัน เพื่อให้นักเรียนอยู่ใกล้ชิดผู้ปกครองที่กำลังเก็บข้าวของหนีน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้

**นาข้าวอุบลฯจมนับพันไร่-ถนนถูกตัดขาด

ส่วนในเขตพื้นที่ของ จ.อุบลราชธานี พบว่าฝนยังตกต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในลำห้วย หนอง คลอง บึงต่าง ๆ รวมทั้งระดับของน้ำโขง ชี มูล ต่างก็มีระดับที่สูงขึ้น ตามปริมาณของน้ำฝนที่ตกลงมา ล่าสุด น้ำในลำห้วย (โดมน้อย) อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้ล้นตลิ่งแล้วเอ่อไหลไปตามลำห้วยสาขา ทำให้เกิดน้ำท่วมนาข้าวของเกษตรไปแล้ว นับพันไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบไปแล้วเกือบทั้งตำบล

ทั้งนี้ คาดว่าถนนเชื่อมระหว่าง ต.ไร่ใต้ กับ ต.โพธิ์ไทร ใช้การไม่ได้การสัญจรถูกตัดขาดอย่างแน่นอน ขณะที่มีหน่วยงานจากทหารบก และทหารอากาศ นำเรือท้องแบน พร้อมรถยนต์ เข้ามาช่วยเหลืออพยพขนย้ายสิ่งของประชาชน

**เผยน้ำท่วมอุบลฯจมบาดาลแล้ว 8 อำเภอ

ล่าสุดนายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากรายงานล่าสุด พบมี 8 อำเภอ ที่ประสบภัยน้ำท่วมจากพิษของพายุรามสูร ประกอบด้วย อ.เมือง อ.วารินชำราบ อ.พิบูลมังสาหาร อ.เดชอุดม อ.ทุ่งศรีอุดม อ.สิรินธร อ.สำโรง และอ.ตระการพืชผล หนักสุด 3 อำเภอ คือ อ.พิบูลมังสาหาร อ.เดชอุดม และ อ.สำโรง มวลน้ำไหลเข้าท่วมนาข้าวแล้วนับหมื่นไร่ ทันทีที่เกิดอุทกภัยได้ประสานไปยังหน่วยทหาร หน่วยกู้ภัย ทั้งมูลนิธิจีตรัมเกาะ กับมูลนิธิ จี้กง ตลอดทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ให้จัดเรือท้องแบน พร้อมทั้งรถยนต์เข้าช่วยเหลือราษฎรในการอพยพขนย้ายสิ่งของไปไว้ยังที่ปลอดภัยกันแล้ว

ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เพื่อจะได้นำถุงยังชีพมามอบให้แก่ครัวเรือนที่ประสบภัย ในวันเสาร์ที่ 26 ก.ค.จะได้เป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นไปก่อน ส่วนระดับน้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตย ล่าสุดอยู่ที่ 4.83 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2.17 เมตร นับเป็นการท่วมฉับพลัน สาเหตุมาจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน และคาดว่าน้ำคงจะลดลงเร็ว เพราะมวลน้ำเหล่านี้ไม่ได้มาจากแหล่งแม่น้ำสายใหญ่อย่าง เช่นแม่น้ำโขงกับแม่น้ำมูล

**น้ำป่าน้ำถล่มคอสะพานในสกลนครขาด

ขณะที่ในพื้นที่ จ.สกลนคร สะพานคอนกรีตข้ามฝายน้ำล้น ท้ายหมู่บ้านโนนเรือ หมู่ 3 ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณนานิคม ขาดเสียหาย หลังจากฝนตกหนักทำให้น้ำจากอ่างเก็บน้ำถ้ำผาจันทร์ได้ไหลหลากลงมาซัดคอสะพานขาดจนยุบตัวลงไม่สามารถสัญจรได้ ต่อมาชาวบ้านได้รวมตัวกันนำไม้มาซ่อมแซมทำสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อให้สามารถข้ามไปมาได้

นายสมบัติ ถานะนุน ชาวบ้านโนนเรือ กล่าวว่า สะพานที่ซ่อมเป็นสะพานไม้ชั่วคราวผ่านได้เพียงรถจักรยานยนต์ รถสามล้อเครื่อง และรถไถนาเดินตาม แต่รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ เพราะสะพานไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงอยากวิงวอนให้ทางจังหวัดเร่งเข้ามาดูแลและซ่อมแซมให้ด้วย เนื่องจากเป็นเส้นทางลัดสำคัญในการคมนาคม และขนถ่ายพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนการเดินไปโรงเรียนของนักเรียนและชาวบ้าน 5 หมู่บ้านของ ต.นาหัวบ่อ ไปสู่ตัว อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร

**นักเรียน ม.2 เชียงรายถูกน้ำป่าพัดจม

ส่วนที่ จ.เชียงราย ได้เกิดเหตุน่าสลดขึ้นที่บ้านทุ่งนาน้อย ม.11 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อมีเด็กถูกน้ำป่าจากดอยหลวงที่ไหลทะลักลงลำห้วยน้ำสม พัดหายไปเมื่อเย็นวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องช่วยกันงมค้นหาจนพบร่างที่ยังมีลมหายใจอยู่และช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ อ.เชียงของ แต่ปรากฏว่าอาการหนัก ต้องส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่ได้สติ ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอดเวลา

เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะ ด.ญ.ทัพดาว แซ่เฮ้อ อายุ 14 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านทุ่งนาน้อย กำลังเดินทางกลับบ้าน ซึ่งต้องเดินข้ามลำห้วยสมที่ปกติน้ำจะตื้นและมีโขดหินให้เดินผ่าน รวมทั้งไม่มีน้ำไหลหลากมากนัก แต่ช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาต่อเนื่องทำให้น้ำป่าจากดอยหลวงไหลทะลักลงลำห้วยม และกระแสน้ำเชี่ยวกราก

เมื่อ ด.ญ.ทัพดาว พร้อมเพื่อนอีก 1 คนเดินไปถึงกลางลำห้วย ปรากฏว่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและระดับน้ำสูงพัดเอาร่างของ ด.ญ.ทัพดาว ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเพื่อนอีกคนเดินใกล้ถึงฝั่งจึงหนีรอดได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ร่าง ด.ญ.ทัพดาว ถูกน้ำพัดไปไกลประมาณ 200 เมตร ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ลงไปช่วยเหลือ และพบว่าเด็กหมดสติอ่อนระทวยติดอยู่ที่คอสะพาน

นายศรชัย แซ่เห้อ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งนาน้อย กล่าวว่า เส้นทางที่ ด.ญ.ทัพดาว ใช้เดินกลับบ้านเป็นทางลัด ซึ่งตามปกติจะไม่มีน้ำไหลบ่าอย่างนี้ แต่เนื่องจากน้ำป่าไหลทะลักมาอย่างรวดเร็วจึงเกิดเหตุดังกล่าว จึงแจ้งให้ชาวบ้านได้ระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อฝนตกอาจมีน้ำป่าทะลักมาอย่างรวดเร็วเหมือนครั้งนี้อีก รวมทั้งได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย อ.เชียงของ และเทศบาลตำบลเวียง อ.เชียงของ ออกหน่วยเคลื่อนที่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวัง และเตรียมย้ายข้าวของไปไว้ที่สูง และย้ายเด็กนักเรียนจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหากเกิดน้ำป่าไหลหลากด้วย

**ทางเข้าบ้านบ่อเกลือเกิดรอยแยกยาว

ส่วนที่ จ.น่าน นายนิติวัธน์ นิธินันท์ธาร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่สาขา อ.บ่อเกลือ ได้เข้าตรวจสอบรอยดินแยกบริเวณทางเข้าบ้านก่อก๋วงใน หมู่ 11 ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หลังมีฝนตกหนักจนเกิดรอยดินแยกยาว 200 เมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้และเกรงว่าหากเกิดฝนตกหนัก หรือตกติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเกิดดินสไลด์ทับบ้านบ่อหลวง หมู่ 1 และบ้านผาคับ หมู่ 2 ต.บ่อเกลือใต้

ทั้งนี้ เนื่องจากจุดที่ดินแยกเป็นต้นน้ำลำน้ำมาง และเป็นพื้นที่ลาดชัน ภูเขาสูง มีโอกาสเกิดดินสไลด์ได้ง่าย อีกทั้งขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ประกอบกับดินชุ่มน้ำเต็มที่ พร้อมจะทลายลงมาทุกขณะ โดยเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดน้ำป่าและดินโคลนถล่มตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อจะได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที

**อุตุฯเตือนไป ตปท.ดูสภาพอากาศก่อน
 
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศพม่าตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกในเกณฑ์กระจายประมาณร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
 
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "แมตโม" (MATMO) บริเวณช่องแคบไต้หวันได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปบริเวณมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีนต่อไป โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเมืองไทเป ไต้หวัน เมืองฝูโจว เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2557 ขอให้ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนเดินทางด้วย







กำลังโหลดความคิดเห็น