xs
xsm
sm
md
lg

พระองค์โสมฯ เสด็จทรงเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ มจร.ครั้งที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ มจร. ครั้งที่ 1 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.54 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ มจร. ครั้งที่ 1 เรื่อง พุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคม ประจำปี 2557 และทรงเปิดนิทรรศการพุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคม ณ อาคาร หอประชุม ม.ว.ก. 48 พรรษามหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ มีพระดำรัสเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ มจร. ครั้งที่ 1 เรื่อง พุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคม ประจำปี 2557 ความว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 และรู้สึกชื่นชมที่ได้ทราบความเป็นมา กับวัตถุประสงค์ของการจัดประชุมวิชาการ รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับมาของมหาวิทยาลัย

พระพุทธศาสนามีหลักธรรมคำสอน ดังนี้คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา อันเป็นข้อประพฤติปฏิบัติดีงาม เพื่อพัฒนาการกระทำ คำพูด ความคิดจิตใจ ตลอดจนปัญญาความรู้ของบุคคลให้สูงขึ้น แต่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนานั้น มีความละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง บางข้อก็ยากแก่การเข้าใจ การหาแนวทางนำหลักธรรมคำสอนออกเผยแผ่ให้เข้าใจง่ายเหมาะสมกับสติปัญญาของบุคคล และไม่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก นับว่ามีความสำคัญ และจำเป็น เพราะจะทำให้ประชาชนเข้าใจ และน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

ดังนั้น การที่จัดให้มีการประชุมวิชาการ เพื่อให้นักวิชาการ ทั้งคณาจารย์ และนิสิตได้นำเสนอผลงานทางวิชาการ เรื่องพุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคม จึงเป็นที่น่ายินดี เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประชุมทั้งหลาย บรรพชิต และคฤหัสถ์ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ และรับความรู้เชิงวิชาการทางพระพุทธศาสนาที่หลากหลาย แล้วยังจะก่อให้เกิดความร่วมมือกัน ในการกำหนดแนวทางนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ไปประยุกต์ใช้พัฒนาจิตใจ สังคม ตลอดถึงประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย   

ข้าพเจ้าขออนุโมทนาชื่นชมด้วยเป็นอย่างยิ่งในกุศลกิจที่ท่านทั้งปวงได้อุตสาหะเสียสละเวลามาประชุม ทั้งหวังว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้จะบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ”



กำลังโหลดความคิดเห็น