ศูนย์ข่าวศรีราชา - “เบอร์รี่ ไอซ์” ไอศกรีมแผ่นราดผลไม้ แบรนด์ท้องถิ่นชลบุรี พร้อมรุกตลาดแฟรนไชส์ทั่วประเทศ หลังใช้เวลานาน 6 ปี ในการสร้างแบรนด์จนเป็นที่รู้จัก ได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่ และใกล้เคียง เชื่อจุดขายด้านความแปลกของรสชาติ และท็อปปิ้งหน้าผลไม้กว่า 20 ชนิด จะทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อนาคตเล็งเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้านหลังเข้าสู่เออีซี
นายฐิติพงษ์ จันทร์สร้อย กรรมการบริหารบริษัท เบอร์รี่ไอซ์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ไอศกรีมเบอร์รี่ ไอซ์” ไอศครีมแผ่นราดผลไม้ ซึ่งเป็นที่รู้จักใน จ.ชลบุรี และใกล้เคียงในภาคตะวันออก ปัจจุบันมียอดขายกว่า 5 ล้านถ้วย หลังเปิดให้บริการใน จ.ชลบุรี มานานถึง 6 ปี เปิดเผยถึงแผนดำเนินงานในปี 2557 ว่า คือการมุ่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ก่อนขยายฐานตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเปิดเออีซี ซึ่งแผนการตลาดแรก คือ การเปิดขายแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจ ทั้งกลุ่มผู้ที่ตกงาน และกลุ่มที่ต้องการมีธุรกิจขนาดเล็กเป็นของตนเอง โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก
“ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา หลังเปิดตัวสินค้าให้เป็นที่รู้จัก เราได้พัฒนาทั้งรูปแบบงานบริการ การสร้างมาตรฐานโรงงานผลิต รูปแบบการสต๊อกสินค้า และระบบการผลิต เพื่อให้แฟรนไชส์สามารถทำไอศกรีมภายใต้มาตรฐานเดียวกันได้ และยังได้พัฒนาการระบบจัดส่ง เพื่อรองรับการเปิดขายแฟรนไชส์ ซึ่งขณะนี้เรามีรถขนส่งสินค้าที่เป็นระบบปิด เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าให้แก่แฟรนไชส์ได้ทั่วประเทศ”
สำหรับการเปิดขายแฟรนไชส์นั้น ช่วงปีแรกบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 100 สาขา โดยคิดค่าแฟรนไชส์ในราคาโปรโมชันที่ 9.9 หมื่นบา จาก 1.29 แสนบาท สิ่งที่แฟรนไชส์จะได้รับ คือ เคาน์เตอร์คีออสก์ ขนาด 1.85 เมตร ตู้ท็อปปิ้งกระจกโค้ง เครื่องสไลด์ไอศกรีม สูตรการผลิตไอศกรีม และท็อปปิ้ง วัตถุดิบเริ่มต้น การให้คำปรึกษาในการเปิดร้าน และระบบการบริหารร้าน เป็นต้น
นายฐิติพงษ์ กล่าวว่า จุดขายของไอศกรีมเบอร์รี่ ไอซ์ นอกจากจะอยู่ที่รูปแบบการสไลด์ไอศกรีมทั้ง 6 รสชาติ เช่น นม สตรอเบอรี่ ชาเขียว ให้เป็นแผ่นบาง และรสชาติที่แตกต่างจากไอศกรีมแบรนด์ดังทั่วไปแล้ว ยังเป็นไอศกรีมที่เน้นความหวานน้อย แต่ให้ความสำคัญกับท็อปปิ้งที่มีไม่ต่ำกว่า 20 ชนิดต่อวัน โดยใช้ผลไม้ตามฤดูกาล เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และเยาวชนที่ผู้ปกครองส่งเสริมให้รับประทานผลไม้ ทั้งยังสะดวกแก่แฟรนไชส์ในการหาผลไม้ตามท้องถิ่น นอกจากนี้ ราคาจำหน่ายต่อถ้วย ทั้งขนาดเล็ก 39 บาท ขนาดกลาง 59 บาท และขนาดใหญ่ 79 บาท ยังช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
“จากการวิเคราะห์ตลาดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่า ฐานตลาดใหญ่ของเรา คือ อายุตั้งแต่ 10-22 ปี ซึ่งคือกลุ่มเยาวชน และคนทำงาน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้รักสุขภาพ ที่ชื่นชอบการรับประทานไอศกรีม แต่ไม่ต้องการความหวาน และกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งเมื่อก่อนเรามีสาขาทั้งในชลบุรี และกรุงเทพฯ ถึง 10 สาขา แต่ขณะนี้ได้ยุบสาขาที่ไม่สะดวกต่อการเดินทางไปดูแล ให้เหลือเพียง 4 สาขาในชลบุรีเท่านั้น เพื่อเน้นการทำตลาดแฟรนไชส์ขนาดเล็ก และวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ยังจะเปิดสาขาที่ 5 บริเวณหน้านิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังด้วย”
นายฐิติพงษ์ กล่าวว่า แม้ปัจจุบันสัดส่วนการตลาดของเบอร์รี่ ไอซ์ จะมีอยู่ไม่มาก เพราะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่ขายอยู่ใน จ.ชลบุรี แต่เชื่อว่าเมื่อมีการเปิดขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ที่สนใจแล้ว ชื่อของเบอร์รี่ ไอซ์ จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันบริษัทยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าอย่างห้างเทสโก้ โลตัส และห้างโรบินสัน ซึ่งจะช่วยให้แฟรนไชส์ที่สนใจเปิดขายในห้าง สามารถจองพื้นที่ได้สะดวกมากขึ้นด้วย
