ศูนย์ข่าวศรีราชา - อำเภอบางละมุง เตรียมจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างเมืองพัทยารอบ 2 หลังยังมีกลุ่มอิทธิพลเรียกเก็บค่าคุ้มครอง นอกจากนี้ ยังพบมีการลักไก่ยัดชื่อจดทะเบียนตั้งวิน ทั้งๆ ผู้ขับขี่จริงไม่ได้รับโอกาส เตรียมลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงพร้อมสั่งฟันพวกนอกรีตเด็ดขาด
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการแก้ไข และการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตพื้นที่เมืองพัทยานั้น หลังเปิดศูนย์รับลงทะเบียนเพื่อเตรียมจัดตั้งวิน และให้การอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปรากฏว่า เปิดมาหลายวันแต่มีผู้ที่มีความจำนงมาแจ้งเพียง 1,000 ราย หรือประมาณ 100 วินเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องต่อสภาพความเป็นจริงที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถรับจ้างในเขตเมืองพัทยากว่า 4,000 ราย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการเกิดความสงสัย จึงมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง และมีผลสรุปว่ารายชื่อที่มีลงทะเบียนไว้ดังกล่าวจะนำเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล โดยจากนี้จะมีการจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งการจดที่ตั้งวิน ชื่อวิน รายชื่อ และจำนวนผู้ขับขี่จริง เพื่อนำมาเป็นทะเบียนในการให้อนุญาต โดยจะตัดโอกาสไม่ให้หัวหน้าวินเป็นผู้รวบรวมแจ้งเช่นเดิม เนื่องจากพบว่า มีการยัดรายชื่อของคนในกลุ่มเข้ามาสวมสิทธิ ขณะที่ผู้ขับขี่ทำกินจริงไม่มีชื่อรวมอยู่ด้วย
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า การทำงานครั้งนี้จะทำงานแบบเข้าถึง และถึงลูกถึงคน โดยเฉพาะกรณีที่ยังทราบว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยยังคงเรียกเก็บผลประโยชน์เช่นเดิมแต่ในลักษณะปิด ซึ่งงานนี้จะทำการลงสืบข้อมูลในทางลับ และจะปฏิบัติการปราบปรามจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำกินอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะก่อผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ไปด้วย
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการแก้ไข และการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตพื้นที่เมืองพัทยานั้น หลังเปิดศูนย์รับลงทะเบียนเพื่อเตรียมจัดตั้งวิน และให้การอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปรากฏว่า เปิดมาหลายวันแต่มีผู้ที่มีความจำนงมาแจ้งเพียง 1,000 ราย หรือประมาณ 100 วินเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องต่อสภาพความเป็นจริงที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถรับจ้างในเขตเมืองพัทยากว่า 4,000 ราย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการเกิดความสงสัย จึงมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง และมีผลสรุปว่ารายชื่อที่มีลงทะเบียนไว้ดังกล่าวจะนำเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล โดยจากนี้จะมีการจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งการจดที่ตั้งวิน ชื่อวิน รายชื่อ และจำนวนผู้ขับขี่จริง เพื่อนำมาเป็นทะเบียนในการให้อนุญาต โดยจะตัดโอกาสไม่ให้หัวหน้าวินเป็นผู้รวบรวมแจ้งเช่นเดิม เนื่องจากพบว่า มีการยัดรายชื่อของคนในกลุ่มเข้ามาสวมสิทธิ ขณะที่ผู้ขับขี่ทำกินจริงไม่มีชื่อรวมอยู่ด้วย
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า การทำงานครั้งนี้จะทำงานแบบเข้าถึง และถึงลูกถึงคน โดยเฉพาะกรณีที่ยังทราบว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยยังคงเรียกเก็บผลประโยชน์เช่นเดิมแต่ในลักษณะปิด ซึ่งงานนี้จะทำการลงสืบข้อมูลในทางลับ และจะปฏิบัติการปราบปรามจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำกินอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะก่อผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ไปด้วย