ชาวบุรีรัมย์ขอขมาแม่ธรณี-โพสพถูกเหยียบย่ำขุดเจาะน้ำมัน จ่อฟ้องศาลปกครอง

บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน 2 อำเภอ บุรีรัมย์ ทำพิธีขอขมาพแม่พระธรณี และแม่พระโพสพหลังถูกพนักงานของบริษัทสัมปทานขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม เข้าไปบุกรุกเหยียบย่ำต้นข้าวในทุ่งนาและขุดเจาะทำลายพื้นดินเสียหาย พร้อมยื่นหนังสือร้องสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเป็นตัวแทนฟ้องให้ศาลปกครอง ระงับเพิกถอนโครงการ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (1 ก.ค.) ชาวบ้าน 5 หมู่บ้านใน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง และ ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คนได้ร่วมกันทำพิธีขอขมาพแม่พระธรณี และแม่พระโพสพ เทพธิดาแห่งข้าวตามความเชื่อของบรรพบุรุษ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านหนองตาด ต.ตูมใหญ่ พร้อมกันนี้ยังได้ทำพิธีสืบชะตาหมู่บ้านขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

หลังจากได้มีพนักงานของบริษัท ซ่านซีเหยียนฉางปิโตรเลียม กรุ๊ป จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานเข้ามาทำการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสัมปทาน 31/50 ทุ่งกุลาร้องไห้ ในพื้นที่หลายหมู่บ้านหลายตำบลใน จ.บุรีรัมย์ ทั้งในเขต อ.คูเมือง สตึก และ อ.แคนดง โดยการเข้าไปขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม ส่วนใหญ่ดำเนินการในพื้นที่ทุ่งนา ไร่อ้อย และสวนยางพาราที่ชาวบ้านได้ทำการเพาะปลูก และไถหว่านข้าวไปแล้วทำให้ต้นข้าวถูกเหยียบย่ำ เสียหาย

อีกทั้งที่ชาวบ้านได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้านไม่ให้ทำการขุดเจาะสำรวจ เพราะเกรงจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต สุขภาพ และพื้นที่การเกษตร จึงได้ทำพิธีขอขมาตามประเพณีความเชื่อ

พร้อมกันนี้ชาวบ้านยังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและหนังสือมอบอำนาจต่อนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและติดตามผลกระทบจากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้เป็นตัวแทนในการฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทสัมปทานขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมด้วย

นายศรีสุวรรณระบุว่า ชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนครั้งนี้เพราะต้องการให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้เป็นผู้แทนในการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ระงับหรือเพิกถอนโครงการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมของบริษัทผู้ได้รับสัมปทาน

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ ถึงแม้ผู้ได้รับสัมปทานจะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐก็ตาม แต่ต้องทำการขออนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ก่อน ไม่ใช่จะกระทำโดยพลการทั้งการขุดเจาะสำรวจ การระเบิดดิน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ชาวบ้าน หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วคาดว่าจะสามารถดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ยังจะได้ยื่นหนังสือร้องดังกล่าวไปยังอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะที่ผ่านมาตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นร้องขอความช่วยเหลือต่อจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ แล้วซึ่งการยื่นฟ้องในครั้งนี้เพื่อยับยั้งไม่ให้บริษัทผู้สัมปทานย่ามใจในการที่จะไปทำการใดๆ ที่ขัดต่อขั้นตอนวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด

“ในกรณีที่ตัวแทนบริษัทฯ เข้าไปดำเนินการโดยไม่ขออนุญาต ถือเป็นการกระทำผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญาโดยชัดเจน ทั้งยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่ง ทำให้เสียทรัพย์ หากชาวบ้านรายใดพบเห็นตัวแทนบริษัทเข้าไปดำเนินการขุดเจาะหรือวางระเบิดในพื้นที่โดยไม่ขออนุญาต ให้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีฐานบุกรุก และหากชาวบ้านรายใดมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากการขุดเจาะสำรวจดังกล่าวก็ให้แจ้งความเรียกค่าเสียหายตามที่ได้รับความเสียหายได้” นายศรีสุวรรณกล่าว