เลย - ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัด สนธิกำลังบุกตรวจยึด “สวนป่ายสวดี” พื้นที่ร่วม 700 ไร่กลางป่าสงวนภูเรือ เจ้าของคือ “ท่านผู้หญิงยสวดี” ซึ่งเสียชีวิตแล้วและยกเป็นมรดกให้บุตรชายครอบครองต่อ ภายในสวนป่าสร้างศาลาอเนกประสงค์ สิ่งปลูกสร้างอื่นรวม 24 หลัง มูลค่าที่รัฐเสียหายราว 100 ล้านบาท เผยเป็นพื้นที่ถือครองผิดกฎหมายต้องยึดคืนเป็นสมบัติชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดเลย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าสงวน ภูเปือย ภูขี้เถ้า ภูเรือ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการคืนผืนป่าให้กับบ้านเมือง ที่สวนป่า “ยศวดี” บ้านห้วยลาด ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย พื้นที่ กว่า 700 ไร่ กลางผืนป่าภูเรือ
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก “ยสวดี รีสอร์ท” หรือสวนป่า “ยสวดี” แห่งนี้ เจ้าของชื่อท่านผู้หญิงยสวดี บูรณะสัมฤทธิ์ อัมพรไพศาล ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว และมีลูกชายรับดูแลต่อ เดิมมีหลักฐานการครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว มีหลักฐานที่ดินเป็น น.ส.3 ก. ทั้ง 7 ฉบับ แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าออกโดยมิชอบ และกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนเมื่อปี พ.ศ. 2555
ต่อมาเจ้าของเดิมจึงร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอความเป็นธรรม และศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนว่า น.ส.3 ก.ดังกล่าวออกโดยมิชอบ และให้กรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามหน้าที่ ตามกฎหมาย
พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดเลย กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เมื่อมีการตรวจสอบของกรมป่าไม้แล้ว ทางกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดจะต้องทำการตรวจยึดคืนเพื่อการทำประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป
เนื่องจากผู้กระทำผิดนั้นไม่ได้มีการทำลายพื้นที่ป่าแต่มีการปลูกสร้างดัดแปลงพื้นที่ป่า บางส่วน ซึ่งในพื้นที่บางจุดสามารถพัฒนาไปทำประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ตามกฎหมายกำหนดไว้ และจะต้องเสนอไปยัง คสช.เพื่อพิจารณาต่อไป
นายฉลองชัย ศาลางาม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลย 7 (หนองเสือคราง) สำนักจัดการป่าไม้ที่ 6 อุดร กรมป่าไม้ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เห็นว่าผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวได้กระทำความผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาหรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น
จึงได้เข้าตรวจยึดจับกุมผู้ครอบครองที่ดินรายนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ที่ครอบครองที่ดินที่ผิดกฎหมายหรือกำลังคิดที่จะซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐานหรือได้หลักฐานมาโดยมิชอบ
ทั้งนี้ พนักงานได้ตรวจสอบพื้นที่รวม 708 ไร่ 1 งาน มีการปลูกสร้าง ได้แก่ ศาลาอเนกประสงค์ สิ่งปลูกสร้างอื่น รวม 24 หลัง มูลค่าที่รัฐเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท และได้ตัวผู้ต้องหา คือนายโชค แสงนาค อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ซอยวัดชมพูเวช 6 ต.ท่าทราย เมือง จ.นนทบุรี รับเป็นผู้ดูแลสถานที่
จากนี้ไประยะ 30 วันทางเจ้าหน้าจะให้เจ้าของรีสอร์ตได้ทำการรื้อสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ให้หมด และเมื่อครบเวลา 30 วันหากไม่มีการรื้อสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็จะให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการรื้อต่อไป
ทั้งนี้ ท่านผู้หญิงยสวดี บูรณะสัมฤทธิ อัมพรไพศาล เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2450 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สมรสกับหลวงอัมพรไพศาล เมื่อปี 2474 มีบุตร-ธิดารวม 4 คน เป็นปูชนียบุคคลแวดวงการศึกษาของไทย เป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรไพศาล ย่านติวานนท์ จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดสอนมาแล้วกว่า 50 ปี และยังคงทำงานจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยนักเรียนโรงเรียนอัมพรไพศาลจะเรียกท่านว่า “คุณยายหญิง”
ท่านผู้หญิง มีความเชี่ยวชาญการใช้ภาษาอังกฤษ และเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลานาน ผลิตลูกศิษย์ที่เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งคิดค้นหลักสูตรในการสอนใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา เป็นผู้เขียนหนังสือและแต่งตำราเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังมีความเคร่งครัดในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องกับลูกศิษย์ทุกคน จึงได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น "ปูชยบุคคลด้านการศึกษา"
ท่านผู้หญิงยสวดี บูรณะสัมฤทธิ อัมพรไพศาล ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชราเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 สิริรวมอายุ 105 ปี หลังฉลองวันเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555
และเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดยเสด็จด้วย