ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้าน 3 ชุมชนริมถนนบายพาส คัดค้านโครงการทางด่วนพิเศษบูรพาวิถี-พัทยา เผยเพิ่งรู้จะมีโครงการผ่านหน้าบ้าน เตรียมยืนหนังสือให้คสช.ช่วย
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นประธานการเปิดประชุมกลุ่มย่อย ช่วงที่ 2 งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ระหว่างวันที่ 23-30 มิถุนายน และวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 โดยมีจะครอบคลุมทุกพื้นที่แนวโครงการทางด่วนสายพิเศษผ่านทั้งหมด 9 กลุ่มพื้นที่เป้าหมาย
โดยจะมีการประชุมกลุ่มย่อย พร้อมรับฟังเสียงของประชาชน และจะนำไปสรุปสุดท้ายเป็นการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา วันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 08.30-12.00 น. ที่ห้องบางกอก ชั้น 12 โรงแรมเดอะซิตี้ ศรีราชา อ.ศรีราชา ซึ่งในวันนี้มีตัวแทนจากบริษัทที่ปรึกษาโครงการ มาชี้แจงรายละเอียดให้ประชาชน 3 พื้นที่ คือ บ้านสวนห้วยกะปิ และ ต.เมือง รับทราบ
นายวีระ ศานติวรกุล วิศวกรโครงการทางด่วนพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา ผู้แทนจากกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด และบริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ว่า บริษัทปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา เพื่อต่อขยายโครงข่ายทางพิเศษบูรพาวิถีไปยังนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งชายหาดบางแสน และเมืองพัทยา ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกในอนาคต
โครงการดังกล่าวจะเป็นการต่อขยายทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) จากเดิมที่สิ้นสุดบริเวณก่อนถึงแยกทางเลี่ยงเมืองชลบุรี ออกไปจนถึงบริเวณพัทยาใต้ โดยจะก่อสร้างเป็นทางพิเศษระดับดินขนาด 6 ช่องจราจร เชื่อมต่อกับทางพิเศษบูรพาวิถี โดยมีพื้นที่ศึกษาตามแนวสายทางของโครงการ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อจากทางพิเศษบูรพาวิถี บริเวณเทศบาลตำบลคลองตำหรุ อ.เมือง ผ่านเขตการปกครอง 3 อำเภอ 11 ตำบล 9 เทศบาล และ 2 องค์การบริหารส่วนตำบล
แนวเส้นทางนี้ได้มีการแก้ไขปรับปรุงไปแล้ว จากเดิมมีเสียงคัดค้านจากชาวบ้าน และได้มีการศึกษาเพิ่มเติมจนได้แนวสายทางใหม่ มีจุดเริ่มต้นต่อจากทางพิเศษบูรพาวิถี บริเวณเทศบาลตำบลคลองตำหรุ อ.เมือง ยกระดับไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ถึงทางเลี่ยงเมืองชลบุรี จากนั้นจะยกระดับไปตามแนวเกาะกลางของทางเลี่ยงเมืองชลบุรี ถึงทางแยกต่างระดับข้ามทางรถไฟ กม.15 และยกระดับขนานไปในแนวด้านซ้ายของทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี) โดยมีระยะห่างจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ประมาณ 100-500 เมตร ผ่าน ต.หนองข้างคอก ต.บางพระ และ ต.สุรศักดิ์
จนผ่านทางเข้าสวนเสือศรีราชา แนวสายทางจะเบี่ยงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ข้ามทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี) บริเวณแยกหนองยายบู่ เพื่อไปใช้แนวด้านขวาของทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี) และตัดผ่านเส้นทางเชื่อมกับท่าเรือแหลมฉบัง แนวสายทางช่วงต่อไปจากนี้จะอยู่ระหว่างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ตัดผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 และไปบรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองพัทยา รวมระยะทางประมาณ 68 กิโลเมตร
นางสุรีพร พัฒนชัย ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับโครงการ และจะคัดค้านถึงที่สุด เนื่องจากบ้านของตนอยู่ริมถนนเลี่ยงเมือง หากจะมีการสร้างทางด่วนพิเศษจะได้รับผลกระทบในเเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ระหว่างการก่อสร้างก็จะได้รับผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งตน และประชาชนทุกคนที่อยู่ริมถนนเลี่ยงเมือง จะรวมตัวค้านโครงการดังกล่าวโดยขอให้ไปผ่านเส้นมอเตอร์เวย์จะดีกว่า
ที่สำคัญที่ผ่านมา ครอบครัวตนเองเสียสละมามากพอแล้วจากโครงการก่อสร้างถนนสายเตอร์เวย์ ที่เรายอมให้ผ่านพื้นที่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ซึ่งจากเดิมราคาที่ดินเรามีราคาสูงถึง 40 ล้านบาท ปัจจุบันไม่มีมีใครซื้อแล้ว กลายเป็นที่ดินไม่ราคา เพราะถนนมอเตอร์เวย์ตัดผ่าน
ที่สำคัญพวกเราชาวบ้านสวนเพิ่งจะทราบเมื่อเร็วๆ นี้เองว่า จะมีโครงการดังกล่าวผ่าน ทั้งนี้ ในไม่อีกกี่วันข้างหน้าจะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ที่ผ่านพวกเราไม่เคยรับรู้มาก่อน ไม่มีการมาสอบความความเห็นของประชาชนก่อนเลยว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 8 กรกฎาคม พวกเราจะร่วมคัดค้าน พร้อมทั้งจะทำหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ช่วยให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน คืนความสุขให้ประชาชนที่กำลังจะได้รับความเดือดร้อนด้วย
