กรมชลฯ ประชุมความร่วมมือวิชาการพัฒนาชลประทานไทย-เกาหลี ที่หัวหิน

ประจวบคีรีขันธ์ - กรมชลประทาน จับมือสาธารณรัฐเกาหลี ระดมนักวิชาการจากทั้ง 2 ประเทศ ร่วมหารือหวังให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาแหล่งน้ำ และการชลประทานอย่างยั่งยืน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ณ โรงแรมฮิลตัน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วันนี้ (23 มิ.ย.) กรมชลประทาน ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการชลประทาน ครั้งที่ 1 ระหว่าง กรมชลประทาน กับหน่วยงาน Korea Rural Corporation หรือ KRC แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ณ โรงแรมฮิลตัน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานฝ่ายไทย และมิสเตอร์ลี บง ฮุน รองประธาน KRC เป็นประธานฝ่ายเกาหลี เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ และประสบการณ์ในด้านการพัฒนาทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ตลอดจนสาขาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องจากกรมชลประทาน และ KRC เข้าร่วมประชุมกว่า 60 คน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการดำเนินการภายไต้บันทึกข้อหารือว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ และการชลประทาน ระหว่างกรมชลประทาน กับหน่วยงาน KRC ซึ่งได้ตกลงที่จะดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ ดังนี้ การดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ด้านการชลประทาน เพื่อป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติอันเนื่องจากอุทกภัยทางธรรมชาติและปัญหาภัยแล้ง การเตือนภัยระบบคาดการณ์อุทกภัยและการจัดการแหล่งน้ำ ที่มีสาเหตุจากภาวะอากาศแปรปรวน การแลกเปลี่ยนการพัฒนาทรัพยากรน้ำและการชลประทานเพื่อเกษตรกรรม การแลกเปลี่ยนพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านทรัพยากรน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งรวมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการพัฒนาระบบติดตามสถานการณ์น้ำ เป็นต้น

การประชุมในวันนี้จะเป็นการร่วมกันพิจารณา 4 เรื่อง ได้แก่ การจัดประชุมคณะกรรมการร่วมหารือ หรือ JSC Meeting โครงการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ โครงการฝึกอบรมและวิจัย การศึกษาดูงาน ซึ่งคณะกรรมการร่วมทั้ง 2 ฝ่าย จะได้ปรึกษาหารือและพิจารณาแผนงานต่างๆร่วมกัน

นอกจากนี้ เพื่อให้การบริหารความร่วมมือด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการชลประทาน ระหว่างกรมชลประทาน และ KRC เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมชลประทาน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการชลประทานฝ่ายไทยขึ้นมา 10 คน เพื่อกำหนดกรอบแนวทางพิจารณาจัดทำแผนความร่วมมือ ควบคุมประสานงานร่วมกับฝ่ายหน่วยงาน KRC เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามบันทึกข้อหารือ ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ และการชลประทาน