ฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ประชุมรับทราบข้อมูลแผนบริหารจัดการน้ำที่ใช้งบประมาณปี 57 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยันไม่เกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ซึ่งยังไม่มีแนวความคิดใดๆ ออกมา
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมรับทราบข้อมูลโครงการและแผนการบริหารจัดการน้ำในปีงบประมาณ 2557 ของแต่ละหน่วยงาน ทั้งที่เป็นแผนงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และที่ได้ดำเนินการไปบางส่วน รวมถึงแผนงานที่ยังมิได้ดำเนินการ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมเจ้าท่า กรมพัฒนาที่ดิน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักงบประมาณ กรมอุตุนิยมวิทยา และอีกหลายหน่วยงาน ร่วมชี้แจงแผนงาน/โครงการและงบประมาณที่แต่ละส่วนรับผิดชอบ
โดยรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ระบุว่า การประชุมในวันนี้เพื่อหารือถึงงบประมาณที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในปีงบประมาณ 2557 โดยสิ่งใดที่หน่วยงานได้ดำเนินไปแล้ว ก็ขอให้เดินหน้าต่อ แต่สิ่งใดยังไม่ดำเนินการก็ขอให้มีการบูรณาการการใช้งบประมาณอีกครั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากมีการเชื่อมโยงแผนงานของทุกส่วนราชการจะทำให้การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อภาคการเกษตร การป้องกันอุทกภัยและประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างเป็นธรรมทั่วถึง และย้ำว่าการหารือในวันนี้เป็นคนละประเด็นกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านที่สังคมกำลังกล่าวถึง ทั้งนี้ คสช.ยังไม่มีแนวความคิดใดๆ ต่อโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ยังได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ขณะนี้ คสช.กำลังเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการในระดับ คสช. เพื่อพิจารณาจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบขึ้นใหม่ ให้เกิดความเชื่อมโยงและเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง จึงขอให้ทุกส่วนราชการได้เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้กับคณะกรรมการดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันเนื่องจากขณะนี้เข้าฤดูฝนแล้ว จึงกำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อการรองรับปริมาณน้ำฝน ไปกำกับดูแลและตรวจสอบโครงการที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้วว่าสามารถเก็บกักน้ำและระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เพื่อเป็นการประเมินแผนงานและแก้ปัญหาของประชาชนได้ตรงตามความเป็นจริง