อุดรธานี - ชุดเฉพาะกิจสนธิกำลังบุกค้นตรวจยึดรถจักรยานยนต์-รถยนต์นายทุนในอำเภอเพ็ญ อุดรธานี รับจำนำจากชาวบ้านขูดดอกเบี้ยโหด ทั้งยังลอบส่งรถขายฝั่งลาว
วันนี้ (20 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.รักษ์พงษ์ รัตนพงศ์ ผกก.สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายธีรศักดิ์ ศรีคัชชา นายอำเภอเพ็ญ ปลัดอำเภอ ได้สนธิกำลังตำรวจ อส. นำหมายศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ ค 190/2557, ค 191/2557, ค 192/2557 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 108, 106, 18 หมู่ 9 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังพบว่าเป็นแหล่งรับจำนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ก่อนนำส่งไปขายข้ามประเทศ
ในการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวพบนายวิรัช กาหวาย อายุ 39 ปี และนางวาสนา กาหวาย อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบริเวณบ้าน พบรถจักรยานยนต์จำนวน 62 คัน รถยนต์เก๋ง 3 คัน รถยนต์กระบะ 1 คัน จอดอยู่ภายในบริเวณบ้าน จึงตรวจยึดรถดังกล่าวไปไว้ที่ สภ.เพ็ญเพื่อตรวจสอบ
นางลี (นามสมมติ) ชาวบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวเปิดรับจำนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์โดยไม่ต้องมีสมุดคู่มือ เพียงแค่มีรถและบัตรประชาชนก็สามารถจำนำรถได้ โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาทต่อเดือน ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยนำรถจักรยานยนต์มาจำนำไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว 1 หมื่นบาท แต่ได้ขาดส่งดอกเบี้ย 2-3 เดือน เมื่อมาสอบถามก็ทราบว่าได้ส่งขายข้ามลาวไปแล้ว
ทั้งนี้ นางวาสนาให้การว่า ตนกับนายวิรัชเป็นพี่น้องกัน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่รับจำนำไว้ เป็นของชาวบ้านที่นำมาจำนำกับตน เงินลงทุนได้มาจากนายวิรัช ก่อนหน้านี้นายวิรัชได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ ส่งเงินกลับมาบ้านให้นางวาสนาพี่สาวเก็บไว้ นางวาสนาจึงนำเงินมาลงทุนรับจำนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์จากชาวบ้านและเซียนพนัน เมื่อไม่มาไถ่ถอนรถก็จะนำรถไปส่งขายต่อให้นายทุนชาวลาว
ด้าน พ.ต.อ.สุรินทร์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีคดีโจรกรรมจักรยานยนต์ คดียักยอกรถจักรยานยนต์ หรือดาวน์รถจักรยานยนต์ออกมาขาย-จำนำ เกิดขึ้นมากจนกระทบต่อเศรษฐกิจ เมื่อมีการตรวจพบแหล่งพักรถจำนวนมากก็ขออำนาจศาลไปตรวจค้น และยึดมาเพื่อตรวจสอบ ยังไม่มีการแจ้งข้อหา ขอตรวจสอบรถทั้งหมดก่อน
ขณะนี้ในส่วนรถจักรยานยนต์กำลังแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ รถที่โจรกรรมมา รถที่ยักยอกหรือหนีไฟแนนซ์มา และรถเจ้าของเอามาจำนำเอง หากเป็น 2 ส่วนแรกก็จะต้องถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ รับของโจร และยักยอกทรัพย์ พร้อมกันนี้ได้ตรวจสอบเอกสารที่ยึดมาว่าทั้งหมดเข้าข่ายความผิดหรือไม่
โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งจะใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน