อุทัยธานี - ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบมณฑลทหารบกที่ 31 พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี สั่งย้ำห้ามขนข้าวเข้า-ออกโกดังจำนำข้าว แต่เปิดให้โรงสีซื้อขายได้ พร้อมเตรียมลงตรวจสต๊อกเร็ววันนี้ ชี้ถ้าเจอข้าวหายคนถือกุญแจต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ. (พิเศษ) พิศาล นาคผจญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 31 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบมณฑลทหารบกที่ 31 พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี (ผบ.กกล.รส.มทบ.31 พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบดัวย ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด, นายอำเภอ, การค้าภายใน, อ.ต.ก., อคส.และเซอร์เวเยอร์ หรือผู้ตรวจคุณภาพข้าว พร้อมด้วยผู้ประกอบการโรงสี เจ้าของโกดังคลังสินค้ารับฝากข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ประชุมร่วม ณ ห้องประชุมสะแกกรัง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด
เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นให้ระงับการเคลื่อนย้ายข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในโกดังกลางคลังสินค้า เพื่อป้องกันและป้องปรามการทุจริต ตามคำสั่งคณะรักความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.
โดยในส่วนคลังสินค้า จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ โกดังกลางคลังสินค้า ที่รับฝากข้าวสารโครงการรับจำนำข้าว ห้ามขนย้ายเข้า และออกอย่างเด็ดขาด แต่โรงสียังซื้อขายข้าวเปลือก-ข้าวสาร ประกอบการได้ตามปกติ ห้ามเฉพาะคลังกลาง ที่จะมีผู้ถือกุญแจอยู่ 3 ส่วน 3 ดอก คือ อคส. เซอร์เวเยอร์ หรือผู้ควบคุมคุณภาพข้าว และอำเภอในพื้นที่โกดังกลางคลังสินค้า
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ทหาร และผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบพบการทุจริตข้าวสารหายไปจากโกดังคลังสินค้า หน่วยงานที่รับผิดชอบการถือกุญแจทั้ง 3 ส่วนจะต้องรับผิดชอบ และถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ เว้นแต่ถูกโจรกรรมก็จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดในการดำเนินคดีต่อไป
และในเร็ววันนี้ทางกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้รับผิดชอบจะมีการออกตรวจสอบโกดังกลางคลังสินค้าว่ามีข้าวสารอยู่ครบ และหายไปหรือไม่ สำหรับจังหวัดอุทัยธานี มีโกดังคลังสินค้ากลางที่รับฝากข้าวสารทั้งหมด 43 หลัง เป็นของผู้ประกอบการทั้งหมด 20 ราย มีจำนวนข้าวสารที่ฝากไว้ทั้งหมดกว่า 5 แสนตัน หรือกว่า 5 ล้านกระสอบ