นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของโรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เข้าชี้แจง หลังได้รับร้องเรียนจากชาวนากว่า 300 คน ว่านำข้าวเปลือกกว่า 8,000 ตัน ไปจำนำกับโรงสีแห่งนี้ แต่ไม่ได้รับใบประทวน และจากการตรวจสอบพบว่า โรงสีดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดจุดรับจำนำข้าวในโครงการรับจำนำ ปีการผลิต 2556/2557 แต่กลับอ้างว่าเป็นโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ และนำข้าวไปจำนำไว้
เบื้องต้นคาดว่าแนวทางแก้ปัญหา จะยึดตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเสนอ คือให้โรงสีคืนข้าวเปลือกทั้งหมดให้กับชาวนา เพื่อนำไปเข้าร่วมโครงการกับโรงสีที่ได้รับอนุญาตถูกต้องแทน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกคำสั่งพิเศษกำกับเพิ่ม แต่หากโรงสีดังกล่าวไม่ยอมคืนข้าวให้ชาวนา ก็อาจมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่า โรงสีดังกล่าวมีความพยายามติดต่อให้กรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติส่วนกลางเปิดจุดรับจำนำโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกรรมการระดับจังหวัด แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับ จ.พิษณุโลก ขณะนี้มีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ปีการผลิต 2556/2557 ทั้งหมด 20 แห่ง โดยแบ่งเป็นขององค์การคลังสินค้า (อคส.) 16 แห่ง และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) อีก 4 แห่ง
เบื้องต้นคาดว่าแนวทางแก้ปัญหา จะยึดตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเสนอ คือให้โรงสีคืนข้าวเปลือกทั้งหมดให้กับชาวนา เพื่อนำไปเข้าร่วมโครงการกับโรงสีที่ได้รับอนุญาตถูกต้องแทน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกคำสั่งพิเศษกำกับเพิ่ม แต่หากโรงสีดังกล่าวไม่ยอมคืนข้าวให้ชาวนา ก็อาจมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่า โรงสีดังกล่าวมีความพยายามติดต่อให้กรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติส่วนกลางเปิดจุดรับจำนำโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกรรมการระดับจังหวัด แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับ จ.พิษณุโลก ขณะนี้มีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ปีการผลิต 2556/2557 ทั้งหมด 20 แห่ง โดยแบ่งเป็นขององค์การคลังสินค้า (อคส.) 16 แห่ง และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) อีก 4 แห่ง