ลำปาง - ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอแจ้ห่มส่ง “พลายแก้ว” ช้างงาเดียว ที่ติดตามยึดมาได้จากกลางป่าให้ศูนย์อนุรักษ์ตรวจสอบหาที่มา หลังเจ้าหน้าที่คาดว่าเจ้าของนำไปชักลากไม้ในป่ามานาน
วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.อ.สุรพล ท้วมเสน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายสันติ นฤมิตร นายอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปางส่งมอบ “พลายแก้ว” ช้างงาเดียว อายุประมาณ 47 ปี ที่ทหาร ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง เดินเท้าติดตามพบในป่าลึก เขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เพราะสงสัยถูกนำมาชักลากไม้ในป่ามานาน ส่งมอบให้ทางคณะสัตวแพทย์ โรงพยาบาลช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
เพื่อให้ศูนย์ฯ นำไปดูแล ตรวจสอบที่มา และเจ้าของช้างเชือกดังกล่าว เนื่องจากเบื้องต้นพบว่าช้างน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนไม้ในป่า โดยมีไมโครชิปติดตัวด้วย
ด้านนายสัตวแพทย์ ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร ที่เดินทางมารับช้างเชือกนี้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการตรวจสภาพช้าง พบว่าร่างกายซูบผอม มีกระดูกสันหลังที่โผล่ออกมาเห็นชัดเจน อาจจะขาดสารอาหาร ซึ่งจะกระทบต่อโครงสร้างร่างกาย ประกอบกับอายุช้างมาก ดังนั้นจะต้องให้อาหาร และสารบำรุงกับช้างในช่วงแรกเพื่อเร่งความสมบูรณ์ให้ช้างกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
ส่วนงาที่ถูกตัดเหลือแต่โคนข้างขวาเพียงข้างเดียว ยาว 28 เซนติเมตร กว้าง 37 เซนติเมตร แสดงให้เห็นว่าหากงาทั้งสองข้างของช้างยังคงอยู่จะเป็นงาที่ใหญ่ ยาว และสวยงามเป็นอย่างมาก
จากนั้นทางโรงพยาบาลช้างได้นำรถบรรทุกสิบล้อเข้ามารับช้าง แต่การนำช้างขึ้นรถค่อนข้างลำบาก เนื่องจากช้างมีนิสัยที่ดุร้ายพอสมควร ดังนั้นจึงต้องมีควาญช้างผู้เชี่ยวชาญนำขึ้น และต้องดูแลเป็นพิเศษ
นายสันติ นฤมิตร นายอำเภอแจ้ห่ม กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่มาของช้าง โดยประสานขอเอกสารจาก อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการขายช้างเชือกนี้ พบว่าเดิมช้างอยู่ใน อ.แม่สะเรียง ชื่อพลายแตะ ถูกขายต่อในราคา 250,000 บาท จากนั้นก็ถูกขายต่อมาอีกหลายมือ และมีการเปลี่ยนชื่อช้างจากพลายแตะ มาเป็นพลายเอกจันทร์ และพลายแก้ว กระทั่งมาพบอยู่ใน อ.แจ้ห่ม
ส่วนชื่อผู้ครอบครองซื้อคนล่าสุดนั้นคือ นายประยุทธ์ สุกมา ชาวบ้านนางาม หมู่ 3 ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปแล้ว คาดว่าจะเป็นขบวนการมอดไม้ชิงชันในพื้นที่ที่ซื้อช้างเข้ามาทำงานชักลากไม้ เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจึงได้ทิ้งช้างแล้วหลบหนีไป