เจอแล้ว! “พลายแก้ว” ช้างงาเดียวถูกใช้ลากไม้เถื่อนกลางป่าเมืองรถม้า

ลำปาง - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหารเดินเท้าติดตามหา “พลายแก้ว” ช้างงาเดียวที่ถูกใช้ชักลากไม้เถื่อนกลางผืนป่าเมืองรถม้า ล่าสุดเจอแล้ว พบเจ้าของนำไปผูกไว้ริมลำห้วยกลางป่าเลี่ยงสายตาเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นสั่งอายัดไว้ก่อน ให้เวลาเจ้าของ 30 วันนำหลักฐานมายืนยัน พ้นกำหนดยึดทันที

วันที่ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และทหารจากศูนย์ฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา จ.ลำปาง ที่ออกเดินเท้าติดตามหาร่องรอยช้างเหลืองาเพียงข้างเดียว และถูกตัดเหลืออยู่ครึ่งเดียวที่สงสัยว่าเจ้าของจะนำไปชักลากไม้ในป่านานกว่า 4 วัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบช้างตัวดังกล่าวแล้ว

โดยพบว่าช้างถูกควาญช้างเอาไปผูกเลี้ยงไว้ริมลำห้วยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตาและป่าแม่มาย พื้นที่เตรียมการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทย เขตบ้านนางาม หมู่ 3 ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ที่อยู่เหนือหมู่บ้านเข้าไปในป่าลึกกว่า 5 กิโลเมตร หวังอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่พบเห็น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้ประสานไปยังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ให้ส่งควาญช้างจากศูนย์บริบาลช้างบ้านปางหละเข้ามาทำการควบคุมช้างออกจากป่า และเนื่องจากช้างเชือกดังกล่าวเหลืองาที่ถูกตัดเพียงข้างเดียว จึงเรียกชื่อช้างเชือกนี้ว่า “เจ้างาเดียว” ช่วงที่ยังไม่ทราบชื่อที่เจ้าของใช้เรียกขาน

แต่ตอนแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่จะเข้าไปควบคุมตัวช้างได้ เนื่องจากการข่าวแจ้งว่า ช้างเชือกนี้มีนิสัยดุร้าย และทำร้ายควาญช้างบาดเจ็บ และเสียชีวิตมาแล้วหลายราย จึงได้แต่เฝ้าดูสังเกตพฤติกรรม จนผ่านมา 1 คืนและอีกครึ่งวันจนพบว่าช้างยังคงมีพฤติกรรมปกติ ควาญช้างจำนวน 6 คนที่เดินทางมาจากศูนย์บริบาลช้างบ้านปางหละจึงตัดสินใจเข้าไปควบคุมช้าง โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีจึงสามารถปลดล็อกโซ่และนำช้างเดินออกจากลำห้วย และเข้ามายังหมู่บ้าน เพื่อที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม จะสังเกตว่าตลอดเส้นทางที่นำช้างกลับออกมาจากป่า ซึ่งต้องลัดเลาะลำห้วยน้อยใหญ่ จะพบว่ามีท่อนไม้ซุงวางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก และเมื่อช้างเห็นท่อนไม้ก็ได้แสดงท่าทางจะเข้าไปใกล้ไม้ซุงเพื่อทำการชักลาก ทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนเห็นภาพแล้วรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก คาดว่าช้างเชือกดังกล่าวน่าจะถูกใช้งานมาอย่างหนัก และถูกควาญช้างทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด

ต่อมาเมื่อนำช้างออกจากป่ามาได้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง, เจ้าหน้าที่ป่าไม้, เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ลำปาง, ตำรวจ สภ.แจ้ห่ม, ตำรวจ ศปทส.ภ.5, กอ.รมน.จ.ลำปาง, ฝ่ายปกครอง อ.แจ้ห่ม ได้เข้ามาร่วมบันทึกในการตรวจยึดช้างทันที

ด้านนายสัตวแพทย์ ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ นายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ออป.ลำปาง ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบสุขภาพช้าง พบว่าช้างมีสุขภาพค่อนข้างแย่ และมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าหลายจุด คาดว่าน่าจะมาจากการถูกใช้งานอย่างหนัก

จากการตรวจการฝังไมโครชิป พบว่าช้างเชือกนี้มีไมโครชิปจริง แต่ต้องรอตรวจสอบข้อมูลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยอีกครั้ง ขณะที่ใบสัญญาซื้อขายช้างระบุไว้ว่า ช้างเชือกนี้ชื่อ “พลายแก้ว” เดิมเป็นช้างในพื้นที่ ต.แม่กืด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีคนในหมู่บ้านแห่งนี้ซื้อมาในราคา 250,000 บาท เมื่อปี 2547 แต่เป็นเพียงสำเนาเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดช้างดังกล่าวไว้ที่หน่วยป่าไม้ฯ ก่อนที่จะทำเรื่องอายัดตัวช้างเชือกนี้ส่งไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ ต่อไปเพื่อรอเจ้าของนำหลักฐานมาแสดงอีกครั้ง โดยให้เวลา 30 วัน หากไม่มาแสดงตัวทางเจ้าหน้าที่จะยึดช้างเชือกนี้ทันที และให้ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยดูแลตลอดไป

สำหรับช้างเชือกดังกล่าวถูกเจ้าของนำหลบหนีเจ้าหน้าที่ที่เปิดยุทธการกวาดล้างจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้-ซุกซ่อนไม้เถื่อนในผืนป่าลำปาง พร้อมกับใช้เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบินสำรวจการลักลอบตัดไม้ จนพบช้างอยู่กลางป่า และกำลังชักลากไม้อยู่ แต่คนเลี้ยงช้างเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงนำช้างหลบหนีเข้าไปซ่อนในป่าลึก